Prologue
Scarlet Beginning
“มาแล้วเหรอ ทาเคดะ ยูกะ” คุณครูโมริเอะยิ้มหวานเมื่อฉันเข้ามาถึงห้องพักของเธอ
และที่ข้างเธอนั่นมีนักเรียนชายคนหนึ่งที่ฉันไม่รู้จักยืนอยู่
เอ่อ...เขาหล่อมากด้วย
หล่อแบบที่เรียกได้ว่าที่สุดที่ฉันเคยเห็นเลยล่ะ ถึงโรงเรียนมัธยมของเราจะมีนักเรียนชายเป็นพันคนก็เหอะ
เขาเป็นใครกันนะ ? ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเจือสีแดงราวกับสีของฟากฟ้ายามเย็นนั่นให้ความรู้สึกแปลกและลึกลับอย่างบอกไม่ถูกเลย
“ค่ะ
คุณครู มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ ?”
“มีแน่จ้ะ”
คุณครูยิ้มหวานอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้น และแนะนำให้ฉันรู้จักกับ... นั่นสิ...ใครน่ะ ?
“นักเรียนใหม่จ้ะ”
อ้อ
“นี่คือนิชิมูระ
ชินจิ จะย้ายมาเรียนที่โรงเรียนของเราวันนี้” ครูบอกชื่อของเขาคนนั้นและแนะนำชื่อของฉันให้เขารู้จักบ้าง
“ชินจิ นี่หัวหน้าห้องของเธอ ทาเคดะ ยูกะจ้ะ”
ชินจิ ?
...ชายที่ดูไม่เหมือนใครราวกับเทพนิยายที่ยังไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนคนนั้น...
นั่นล่ะ
วิธีพบกันแบบง่ายๆ และสั้นๆ ของฉันกับชินจิ แต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าต่อไปนี้จะมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกมากแค่ไหน
!
เรื่องราวที่ทั้งวุ่นวายและแปลกประหลาดกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
!
‘เพราะงั้นฝากดูแลชินจิให้ทำความคุ้นเคยกับที่นี่หน่อยนะ’ รอยยิ้มหวานของคุณครูและคำสั่งของเธอยังติดแน่นในหัวของฉัน
ขณะที่ฉันเดินพาชินจิออกเดินชมโรงเรียน
นักเรียนใหม่ที่เข้ามาเรียนในปีสุดท้ายของชั้นมัธยมงั้นเหรอ ? แปลกดีนะ ฉันไม่รู้เลยว่าชินจิเป็นใครมาจากไหน
เขาดูไม่เหมือนคนอื่นเลย รูปร่างหน้าตาของเขาน่ามองอย่างประหลาด
โดยเฉพาะตอนนี้ที่เขาเดินอยู่ข้างๆ ฉัน เยื้องหน้านิดๆ นั่น
ทำให้ฉันเผลอแอบมองเขาไปหลายรอบเหมือนกัน แต่นั่นน่ะไม่แปลกเลย
เพราะทุกคนก็ทำแบบนั้น
ดูสิ
นักเรียนหญิงมองตามเขาใหญ่เลย ที่โรงเรียนเราไม่เคยมีใครเป็นจุดสนใจได้ขนาดนี้เลยนะ
“ส่วนที่เราเพิ่งเดินผ่านมาเป็นอาคารอำนวยการนะ
ตรงนี้เป็นโรงยิม ตรงนั้นเป็นห้องพยาบาล”
ฉันพูดจ้อ “โรงเรียนมัธยมแห่งนี้เป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งของจังหวัดนะ
ก่อตั้งเมื่อปี 1860”
“...”
“และนั่นเป็นห้องน้ำ มีตรงนี้จุดหนึ่ง แล้วก็อีกจุดหนึ่งสุดทางอีกฟาก”
ฉันบอกเรื่องที่ควรบอกเกี่ยวกับโรงเรียนของเราให้เขารู้ แต่ดูเขาจะพูดน้อยนะ ก็เหมือนกับผู้ชายหน้าตาดีในญี่ปุ่นทั่วไปนั่นล่ะ
“...”
“อ้อ แล้วนั่นโรงอาหาร แล้วก็...” ฉันหันมายิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร “ยินดีต้อนรับ
นี่คือห้องเรียนของเราล่ะ”
ฉันบอกนักเรียนใหม่ในสิ่งที่เขาควรรู้เกี่ยวกับโรงเรียนของเราครบรึยังนะ
เพื่อนในห้องมองเราเป็นตาเดียวตอนที่ฉันพาชินจิเดินเข้ามา
แล้วในวินาทีเดียวความสง่างามที่ยากจะอธิบายของเขาก็ทำให้ทุกคนในห้องหันมามองเขาอย่างชื่นชมได้
“ใครน่ะ”
“นักเรียนใหม่เหรอ
เขาหล่อจังเลย”
“ไม่เคยมีนักเรียนหล่อแบบนี้ในโรงเรียนเราเลย
มาจากไหนนะ”
พวกนั้นซุบซิบกันอย่างตื่นเต้นเกินไปแล้ว ทว่าชินจิราวกับไม่ได้ยิน
เพราะเขาเพียงแค่ตอบรับเสียงฮือฮาพวกนั้นด้วยท่าทางที่สงบนิ่งและริมฝีปากที่เรียบสนิทเป็นเส้นตรงเท่านั้น
เขาดูเย็นชาและพูดน้อยทีเดียวล่ะ แต่ดวงตาที่นิ่งทว่าไม่ยะโสหรือรั้นนั่นบอกฉันว่าเขาไม่ใช่คนหยิ่งเลย
ว่าแต่เขาเป็นคนแบบไหนกันล่ะ ?
“ชินจิ
นี่ห้องเรียนของนายนะ นายอยู่ห้องเดียวกับฉัน” ฉันยิ้มกว้างแบบเจ้าของบ้านที่ใจดีที่สุด
“...”
“จะนั่งตรงไหนล่ะ
เชิญเลือกตามสบาย” ฉันยิ้มกว้างกว่าเดิม
“...”
บางทีอยู่กับเพื่อนใหม่ที่ไม่พูดอะไรเลยแบบนี้ก็อึดอัดเหมือนกันนะ
ห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
ราวกับพวกนักเรียนหญิงกำลังรอว่าชินจิจะนั่งลงข้างพวกเธอคนใดคนหนึ่งหรือไม่
แล้วชินจิก็นั่งลงตรงที่นั่งว่างถัดจากฉันโดยไม่พูดอะไร
ระหว่างโต๊ะของเขากับของฉันมีทางเดินเล็กๆ ขนาดหนึ่งคนเดินได้กั้นเอาไว้ เขาคงต้องการการแนะนำในฐานะเด็กใหม่จริงๆ
นั่นล่ะ และในเมื่อเขาเลือกนั่งใกล้ๆ ฉัน
ฉันก็จะทำหน้าที่เจ้าบ้านให้ดีที่สุดก็แล้วกัน
แล้วชั้นเรียนแรกของวันนี้ก็เริ่มขึ้น
เพราะคุณครูวิชาวิทยาศาสตร์น่ะมาถึงแล้ว
ระหว่างเรียนคุณครูมีคำถามโยนให้พวกเราตอบตลอดเวลา
และพอมาถึงชินจิ ฉันก็ต้องแปลกใจที่เขาตอบได้ดีทีเดียวล่ะ ถึงเขาจะตอบสั้นๆ
แต่ก็ชัดเจนและถูกต้อง ทำให้ทุกคนอดมองเขาอย่างชื่นชมไม่ได้ เขาคงเรียนเก่งทีเดียวนะ
บางทีปีนี้เขาอาจจะสอบได้ที่หนึ่งแซงหน้าฉันก็ได้
แล้วเวลาพักกินอาหารเที่ยงก็มาถึง
ฉันเดินพาชินจิมาที่ห้องอาหารท่ามกลางสายตาสอดรู้สอดเห็นของนักเรียนหญิงทั้งโรงเรียน
มันทำให้ฉันประหม่าไปด้วย แววตาทุกคู่ดูจะชื่นชมและหลงใหลเขา แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่กล้าเข้ามาทัก
นอกจากฉันที่ถูกคุณครูมอบหมายไว้
ฉันพูดไม่หยุดเหมือนเมื่อเช้า
พยายามทำตัวเป็นหัวหน้าห้องที่ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ฉันเล่าให้เขาฟังทุกเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียน
ตั้งแต่กฎระเบียบ ชื่อครู ชื่อเพื่อนๆ ไปจนถึงชื่อร้านอาหารและเมนูเด็ดของแต่ละร้านในโรงอาหาร
แล้วฉันก็สั่งอาหารน่าอร่อยหลายอย่างมาวางให้หน้าชินจิ
“อ้าว
ทำไมไม่กินล่ะ ?” ฉันถามเมื่อเห็นชินจิมองอาหารเฉยๆ เท่านั้น “ไม่น่ากินเหรอ ?
หรือนายไม่สบาย ?”
“...”
“เป็นนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาคงกังวลเหมือนกันสินะ
แต่นายก็ควรจะกินอะไรซักหน่อย ไม่งั้นจะไม่สบายได้นะ ^^”
“ไม่เป็นไร”
เขาบอกสั้นๆ “เธอกินสิ ยูกะ”
แล้วเขาก็ปล่อยให้ฉันกินข้าวเที่ยงคนเดียวซะงั้น
ส่วนเขาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยไม่แตะต้องอาหารเลย
แต่ชินจิจะเป็นอะไรรึเปล่านะ
เขาจะหิวรึเปล่า ? ฉันได้แต่ลอบมองใบหน้าเสี้ยวข้างที่งดงามของเขาจากโต๊ะเรียนของตัวเอง
ใบหน้านั้นมองตรงไปที่กระดาน และมือที่มีนิ้วเรียวงามน่ามองก็จดสิ่งที่คุณครูสอนลงในสมุด
ลายมือของเขาสวยและเป็นระเบียบ ต่างกับลายมือยุ่งๆ ของฉันราวกับคนละโลก
การมีลายมือสวยๆ เหมือนชินจิน่ะดีจังเลยนะ
“ไปกินข้าวเย็นกันมั้ยชินจิ
นายยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เที่ยงนะ” ฉันร้องบอกชินจิเมื่อหมดวัน
เราเพิ่งเดินออกมาจากตึกเรียนด้วยกัน “ฉันรู้จักร้านอร่อยๆ แถวนี้เยอะเลย นายอยากกินอะไรล่ะ”
แล้วดวงตางดงามของเขาก็มองหน้าเปื้อนยิ้มของฉันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะบอกออกมา
เมื่อมองอย่างใช้เวลา ฉันถึงเห็นว่าดวงตาของเขามีสีที่น่าสนใจมาก มันเป็นมีสีน้ำตาลเข้มเจือแดงเหมือนที่เห็นตั้งแต่แรกนั่นล่ะ
แต่เมื่อเห็นใกล้ๆ อย่างนี้มันดูราวกับท้องฟ้าของยามสนธยา เวลาที่แสนจะงดงาม
ลึกลับ และน่าหลงใหล...
ที่น่าแปลกก็คือเวลานี้มันดูโดดเด่นและงดงามกว่าเมื่อเช้า
ไม่รู้ว่าทำไม
“ก็ได้”
เขาบอก
โอ้
ฉันดีใจจัง !
“แต่ฉันต้องเป็นคนเลือกอาหารนะ” เขาบอก
“นั่น
มันแน่อยู่แล้ว”
ฉันดีใจจนเหมือนกระโดดไปมาอยู่รอบตัวเขา
ฉันดีใจจังเลยที่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะกินอะไรบ้างแล้ว
เพราะมันแสดงว่าเขาเลิกกดดันกับการเข้ามาเรียนในโรงเรียนใหม่ของฉันแล้วไง
ล่ะ
“ยูกะ” เขาเรียกชื่อฉันอย่างตั้งใจขณะที่เดินนำฉันไปด้านหลังโรงเรียน
เขาเดินนำหน้าฉันอยู่นิดๆ และตอนเรียกก็ไม่ได้หันมามองฉันซะทีเดียว
“เธอใจดีจังเลยนะ”
“ฮ่าๆๆ”
ฉันได้แต่ยิ้มให้แผ่นหลังของชินจิเพื่อตอบแทนคำชมของเขา
ฉันอยากให้เขามีความสุขและคุ้นกับโรงเรียนเร็วๆ น่ะ
“ว่าแต่นายเดินมาหลังโรงเรียนทำไมเหรอ
ร้านอาหารนอกโรงเรียนน่ะต้องไปอีกทางนะ” ฉันถามเมื่อเขาพาฉันเดินมายังสวนเปลี่ยวที่มีกำแพงสูงของโรงเรียนล้อมไว้ทุกด้าน
เริ่มเย็นแล้วด้วย ที่สำคัญไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย
แล้วชินจิก็หยุดเดิน
ฉันมองแผ่นหลังของเขางงๆ เมื่อเขานิ่งไปก่อนจะพูดว่า
“เธอถามฉันว่าทำไมฉันไม่กินอะไร”
“?”
“ฉันจะบอกเธอก็ได้”
อ๊ะ !?
อยู่ๆ ชินจิก็หันมาจับข้อมือของฉันไว้ทั้งสองข้าง
ทำให้ฉันงงและออกจะตกใจทีเดียว แล้วในวินาทีต่อมาร่างของฉันก็ถูกดึงเข้าไปใกล้เขาจนชิด
ก่อนที่ริมฝีปากสวยของเขาจะขยับพูดสิ่งที่ฉันไม่มีวันเชื่อว่าจะเป็นไปได้
“เพราะฉันเป็นแวมไพร์ไงล่ะ”
“!!!!????”
เขี้ยวแหลมที่ปรากฏออกมา...
ดวงตาที่ราวกับนักล่า... แสงสีแดงบนฟ้าที่กำลังเลือนหาย...
แวมไพร์
!!!????
“ยะ...อย่า...อ...อ๊า !!”
ชินจิกัดฉันแล้ว
เขี้ยวคมของเขาฝังลึกลงที่ลำคอของฉัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ !!!???
...เจ็บจัง...
...กลัวมากด้วย...
คมเขี้ยวของชินจิกำลังแย่งชิงเลือดไปจากฉัน
แรงบีบจากมือของชินจิที่ข้อมือของฉันแข็งราวกับคีมเหล็ก ฉันหนีไปไหนไม่ได้เลย
ช่วยฉันที ใครก็ได้ !!
“ชะ...ชินจิ
!!”
ไม่
!!!!!
“อย่า !!!” ฉันสะดุ้งตื่นพร้อมกับความฝันที่ยังติดตา
เช้าแล้ว และที่นี่คือห้องนอนของฉันเองนี่ ผนังห้องอบอุ่นกำลังเปิดรับแสงแดดยามเช้าจากบานหน้าต่างที่มีเสียงนกร้องร่าเริง
จากเงาสะท้อนของกระจกในห้อง รอยเขี้ยวจางๆ ยังปรากฏอยู่ที่ต้นคอของฉัน
ฉันยังสัมผัสถึงความเจ็บเบาบางที่แผ่ซ่านออกจากผิวหนังตรงนั้น
ราวกับมันกำลังเริงระบำ และเมื่อฉันเคลื่อนปลายนิ้วไปแตะต้องแผลนั้น
ฉันก็ต้องยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเย็นเมื่อวานเป็นความจริง
ฉันถูกแวมไพร์ดูดเลือด เป็นไปได้ยังไงกัน ?
นักเรียนใหม่คนนั้นเป็นแวมไพร์จริงๆ เหรอ !!??
...ชินจิ…
‘อ...อย่า !!’ วินาทีนั้นที่คมเขี้ยวของเขาแทรกเข้าไปในร่างของฉัน
ฉันถึงกับสะท้านวูบ ความเจ็บที่แล่นปราด เลือดในกายที่วิ่งพล่านราวกับถูกเรียก... แขนแข็งแรงที่ล็อคฉันไว้จนขยับเขยื้อนไม่ได้
ไม่แม้แต่จะเปล่งเสียงร้องได้ด้วยซ้ำไป
นี่น่ะเหรอแวมไพร์ ??
...แล้วทุกอย่างก็ดับวูบลง…
ชินจิเป็นแวมไพร์ เขากัดฉันและดื่มเลือดของฉัน...
มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว
ฉันจะทำยังไงดี !!??
อ่าน Vampire and I รักนายแวมไพร์ของฉันฉบับเต็มในรูปแบบ E-Book ได้ที่นี่ค่าาา ><
รีดเดอร์ที่สนใจ “Vampire and I : รักนายแวมไพร์ของฉัน”
ฉบับพ็อคเก็ตบุ๊คสามารถโอนเงินค่าหนังสือ 155 บาทพร้อมค่าจัดส่งทั่วประเทศ 30 บาท รวม
185 บาทมาได้ที่บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาบิ๊กซีหางดง 2
เลขที่บัญชี 406-387614-3 เอื้องอลิน จึงสกุลรุจิเรข
แล้วส่งหลักฐานการโอนพร้อมชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่งมาที่อินบ๊อกซ์ www.facebook.com/daydreamfiction หรือ Line id: Ung-alin ขอบคุณค่ะ ^^
© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต ฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย
|
|