protect copy

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Chapter 3 Scarlet Touch










3



Scarlet Touch





กึก...

ทั้งโรงเรียนเงียบไปหมด โถงทางเดินที่ควรจะเต็มไปด้วยนักเรียนก็เงียบสงัดเหมือนโรงเรียนร้าง ฉันไม่เคยอยู่ที่ห้องสมุดนานจนเกือบปิดแบบนี้เลย ไม่น่าเชื่อว่าทุกคนจะกลับบ้านกันหมดแล้ว

“ทำท่าทางขยะแขยงฉันแบบนั้นไม่ดีเลยนะ” ที่นั่นเองเสียงของชินจิทักฉันจากด้านหลัง

“ชินจิ อย่าทำให้ฉันกลัวนะ !

“ก็บอกแล้วไงว่าฉันอธิบายทุกอย่างได้”

“ถึงยังไงนายก็เป็นแวมไพร์อยู่ดี นายเป็นผี เป็นปีศาจที่ชั่วร้าย !

“พูดพอรึยัง”

“ยัง” ฉันหันมาเผชิญหน้ากับเขา กัดฟัน กำมือไว้แน่น ต้นขอของฉันยังเจ็บมาก และฉันรู้เลยว่าตอนนี้เลือดคงกำลังซึมลงมา ฉันยกมือไปแตะดู แล้วก็เห็นว่ามีเลือดของตัวเองติดปลายนิ้วออกมาด้วย

“ที่ฉันไปง้อนายให้กลับมาเรียนน่ะไม่ใช่เพื่อให้นายมากินเลือดฉันตามใจชอบแบบนี้นะ”

“แล้วเธออยากให้ฉันทำยังไง ?”

“ก็เลิกทำให้ฉันกลัวไง” แล้วฉันก็วิ่งหนีอีก แต่ทุกทางที่ไป ชินจิก็มาดักหน้าไว้ได้ นี่นะเหรอแวมไพร์ เขาเคลื่อนไหวราวกับเงาได้ !?

ชินจิ ! ยิ่งฉันทำให้เขาโกรธ เขาก็ยิ่งทำตัวเหมือนผีร้าย !

ฟึ่บ ! แล้วชินจิก็หายวับไปเพื่อจะมาปรากฏตัวต่อหน้าฉันที่เพิ่งกลับหลังหัน ไม่น่าเชื่อชินจิย้ายจากผนังอีกด้านมายังอีกด้านได้ในพริบตาทั้งที่ผนังสองด้านห่างกันหลายเมตร !

“น่ากลัวจัง” ฉันปิดตาและเสียงสั่น

“ยูกะ”

“ไปนะ !” ฉันไล่

“ไม่”

แต่แล้วชินจิก็จับมือฉันไว้ นิ้วหัวแม่มือของเขาไล้หลังมือของฉันอย่างอ่อนโยน ทำให้ฉันที่ยังกลัวรู้สึกผ่อนคลาย ทำไมล่ะ ?

“ฉันไม่ใช่ผีนะ” เขาบอกฉัน

“ใช่สิ”

“ผีน่ะจับต้องไม่ได้ แต่แวมไพร์ไม่ใช่ ลองจับตัวฉันดูสิ” ชินจิดึงมือของฉันไปวางบนตัวของเขา

“ฉันมีร่างกายนะ เหมือนเธอ เหมือนคนทั่วไป” ชินจิบอกเมื่อเขาจับให้ฝ่ามือของฉันกดลงบนแขนและไหล่ทั้งสองข้างของเขา ก่อนที่เขาจะนำมือของฉันไปสัมผัสกับใบหน้าของเขา...ใบหน้าที่คมคาย...งดงาม...และน่าหลงใหลไม่เสื่อมคลาย

“ชินจิ”

“เข้าใจรึยัง ?” แล้วชินจิก็ลากมือของฉันมาทาบกับร่างของเขา...ร่างที่น่ามองและสูงใหญ่กว่าฉัน

และเสียงของเขาอ่อนโยนราวกับกำลังปลอบโยนเด็กน้อยที่หวาดกลัว

“และฉันก็มีหัวใจ” ชินจิลากฝ่ามือของฉันไปวางบนหัวใจของเขา และฉันสัมผัสถึงการเต้นของหัวใจนั้นได้

“ฉันก็มีชีวิต มีความคิด และมีความรู้สึกเหมือนกัน”

เขาบอกราวกับวิงวอน “เลิกกลัวฉันได้แล้ว ยูกะ”

อย่างเงียบงัน ชินจิก็เคลื่อนมือของฉันไปอยู่ต่อหน้าเขา มือนั้นเป็นมือที่มีปลายนิ้วเปื้อนเลือดของฉัน และฉันพบว่ามือนั้นทิ้งรอยแดงไว้บนเสื้อนักเรียนสีขาวของเขา

“ฉันก็แค่แวมไพร์เท่านั้น และถึงโลกจะสาปแช่งพวกเรา แต่กับเธอ ยูกะ อย่าเกลียดฉัน...”

ฉันยังยืนเกร็งเมื่อใบหน้าของชินจิเคลื่อนเข้ามาอย่างเชื่องช้า และริมฝีปากของเขาเช็ดเลือดจากปลายนิ้วของฉัน

“นึกซะว่าฉันเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบดื่มเลือดเท่านั้น”

...เลือด...

แค่คำว่าเลือดก็ทำให้ฉันสั่นสะท้านไปทั้งร่าง แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว ชินจิล็อคสองมือของฉันไว้อีกครั้ง ฉันรีบบิดหน้าและเอนตัวหลบ แต่ผิดคาด ชินจิไม่ได้ฝังคมเขี้ยวลงบนลำคอของฉัน หากแต่ฝังลงบนข้อมือด้านในของฉันแทน

“โอ๊ย”

“ถ้าเธอไม่ชอบถูกดื่มเลือดจากที่คอ ฉันดื่มจากข้อมือของเธอก็ได้นะ”

แล้วชินจิก็ดื่มเลือดของฉันด้วยวิธีนั้น ริมฝีปากของเขาทาบทับอยู่กับข้อมือของฉัน

...และมันเจ็บไม่ต่างจากครั้งก่อนๆ เลย...

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจนเวลาที่เขาดื่มเลือดจากฉัน ใบหน้าที่งดงามเกินกว่าจะอธิบาย เส้นผมสีน้ำตาลเข้มงดงามที่ปรกลงมา จมูกโด่งสวยราวกับวาดที่ปลายของมันแตะอยู่กับท้องแขนด้านในของฉัน...

...และความเป็นแวมไพร์อันลี้ลับของเขาที่ฉันคงไม่มีวันคุ้นชิน

“เห็นไหม ? ฉันไม่ได้ทำรุนแรงเลยใช่มั้ยล่ะ ฉันทะนุถนอมเธอมากด้วยซ้ำไป” ชินจิบอกฉัน ริมฝีปากของเขายังลิ้มรสเลือดของฉัน และฉันรู้สึกว่าแววตาที่ดูอ่อนล้านั้นกลับสดใสและงดงามยิ่งกว่าเก่า

...ชินจิ...

ฉันอยากให้นี่เป็นเพียงความฝัน ความฝันที่ว่านายคือเจ้าชายที่กำลังจุมพิตมือของเจ้าหญิง...และเจ้าหญิงนั้นก็คือฉัน และนายเป็นเพียงเจ้าชายที่ขอเจ้าหญิงแสนสวยอย่างฉันเต้นรำ

ฉันรู้สึกมึนแล้ว และใช่เลยฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในห้วงความฝัน คงเป็นเพราะเลือดในร่างของฉันกำลังไหลออกไปหาชินจิสินะ

ช่างเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบายจริงๆ

แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือฉันไม่อาจจมอยู่กับความฝันนี้ได้ ชินจิเป็นแวมไพร์ และเขาต้องการเลือดของฉัน

ฉันไม่อยากถูกกัดอีกแล้วชินจิ

แต่ใครก็ได้ช่วยบอกฉันที

...บอกฉันทีว่าฉันควรทำยังไง...



เมื่อคืนฉันคิดจนนอนไม่หลับเลยว่าฉันจะช่วยชินจิได้ยังไง ฉันอยากให้เขาเลิกเป็นแวมไพร์ แต่มันจะเป็นไปได้ไหม ? หรืออย่างน้อยถ้าแวมไพร์ไม่มีวันกลับกลายเป็นมนุษย์ ต่างจากมนุษย์ที่ถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ได้ง่ายๆ ก็น่าจะมีวิธีทำให้แวมไพร์เลิกกระหายเลือดได้บ้าง

มีวิธีไหนมั่งนะที่ทำให้แวมไพร์ไม่ต้องกินเลือดมนุษย์ หรือเขาจะกินเลือดไก่ได้ ?

แต่ถ้าทำแบบนั้นก็น่าสงสารไก่อยู่เหมือนกัน ไก่น่ะตัวเล็ก ถูกกัดหนเดียวก็คงตาย ไม่เหมือนมนุษย์ที่ถ้าดูแลตัวเองดีๆ อาจจะมอบเลือดให้แวมไพร์เป็นประจำได้ เพราะงั้นมนุษย์ถึงได้เป็นอาหารของแวมไพร์ไงล่ะ

...ริมฝีปากที่ทาบทับอยู่กับเส้นเลือดเหนือลำคอของฉัน มือที่รัดแน่น ร่างที่ชิดแนบกัน เสียงลมหายใจ...

ว่ากันว่าการถูกแวมไพร์กัดและดื่มเลือดเป็นเรื่องที่น่าหลงใหล เพราะงั้นถึงมีมนุษย์มากมายยอมเป็นทาสของแวมไพร์

และชินจิก็ไม่ใช่แวมไพร์ที่ธรรมดาเลย เขาน่ามอง และมีเสน่ห์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ใบหน้านั้นยิ่งกว่างดงาม อาจเพราะผิวที่ขาวจัดกว่าคนทั่วไป ถึงงั้นก็ไม่ใช่ขาวซีด ดวงตาก็ลี้ลับ...มองแล้วยากที่จะละสายตาไปได้ สันจมูกโด่งสวยเหมือนจงใจวาดเอาไว้ ไหนจะเส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ล้อมกรอบใบหน้านั้น

ชินจิเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เรียกว่างดงามทีเดียว

กรี๊ดดดด !!!

ฉันคิดบ้าอะไรอยู่นะ !!!???

ยังไงฉันก็ต้องหาวิธีให้ชินจิเลิกกินเลือดให้ได้ ! ฉันสอบได้ที่หนึ่งเมื่อปีที่แล้ว เพราะงั้นฉันฉลาด

และจะต้องคิดคำตอบได้เร็วๆ นี้แน่ ๆ !!!

“ยูกะ ชั้นคิดถึงเธอจังเล้ยยยย” อยู่ๆ เสียงดังและอ้อมแขนที่กระโจนเข้ามารัดฉันแรงจนหน้าแทบคว่ำกับโต๊ะก็ปลุกฉันออกมาจากความคิดที่ยุ่งเหยิง

เส้นผมหนาเหมือนตุ๊กตา หน้าตาที่สดใสและร่าเริงเหมือนนางเอกอนิเมะ ขาที่ยาวเหมือนนางแบบ ลิปกลอสสีชมพูใสปิ๊งบนริมฝีปากสวยน่ารัก

“ฟูมิ !?

“ช่ายยยยย ฉันกลับมาแล้ว”

เธอชื่อฟูมิ และเธอเป็นเพื่อนสนิทของฉันล่ะ

หลังจากลาเรียนไปเกือบอาทิตย์เพื่อไปต่างจังหวัดกับพ่อแม่ เธอก็กลับมาเป็นสีสันให้กับวันธรรมดาๆ ของฉันอีกครั้ง เพราะฟูมิน่ะทั้งยิ้มเก่ง หัวเราะง่าย และพูดเก่งยิ่งกว่าใครไงล่ะ

“กลับมาทันวันวาเลนไทน์จริงๆ ด้วย” ฉันแซว และนั่นก็เพราะฟูมิเป็นสีสันของวันวาเลนไทน์ในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ทุกปีไงล่ะ

“แน่อยู่แล้ว จะพลาดได้ยังไงล่ะ เพราะวันนี้ฉันต้องได้รับช็อคโกแล็ตจากหนุ่มๆ เยอะจนหอบกลับบ้านไม่ไหวแน่ๆ”

“ฮ่าๆๆ”

ฟูมิไม่ได้พูดเกินเลยหรอก เธอได้รับช็อคโกแล็ตเยอะทุกปีจริงๆ เพราะเธอน่ะหน้าตาน่ารัก แต่โรงเรียนนี้นักเรียนหญิงหน้าตาน่ารักไม่ได้มีฟูมิคนเดียวหรอกนะ ว่าที่จริงมีหลายคนเลยล่ะ และหนึ่งในนั้นก็คือฉันเอง โฮะ โฮะ โฮะ

แต่ฟูมิน่ะเป็นมิตรที่สุดในโรงเรียนแล้วล่ะ เธอเป็นนักเรียนหญิงที่มีอารมณ์ขันที่สุด แล้วก็มองโลกในแง่ดีที่สุดด้วย เพราะฉะนั้นก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ และนั่นก็เป็นคุณสมบัติที่ไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่าการมีหน้าตาที่น่ารักเลย จริงมั้ย ?

“แต่ฉันว่าปีนี้เธอแพ้คนคนนึงล่ะ” มิโดริ นักเรียนตัวเล็กที่อิจฉาฟูมินิดๆ อยู่เรื่อยพูดขึ้น

“ใคร ?”

“ชินจิ”

“หือ ?” ฟูมิทำหน้าเหวอไปเลย “ชินจิ ? ใครน่ะ ?”

“กรี๊ดๆๆๆ”

ทันใดนั้นเสียงกรี๊ดที่นอกห้องเรียนก็ดังขึ้น ตามเสียงฝีเท้าจังหวะพอดี...มั่นคง...ออกจะเท่และขรึม...

...ฟังก็รู้ว่าเจ้าของฝีเท้าคงเป็นคนที่มีเสน่ห์หาตัวจับยาก...

ชินจิมาแล้ว

อ่าน Vampire and I ทั้งเรื่องได้ที่นี่ค่ะ จิ้มปก ><
 
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTA1OTgyMCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6IjQyNjA5Ijt9






© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์   
ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต ฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย