ถึงฉันกับแซคจะถอนตัวจากการแข่งขันก่อนจะทันได้เงินรางวัลอะไร
แต่ฉันก็ต้องแปลกใจที่มีรางวัลอีกรางวัลที่คาดไม่ถึงมาส่งตรงให้
“ว่าอะไรนะ!? รางวัลขวัญใจสื่อมวลชน?!” ฉันกระเด้งขึ้นจากเตียง หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
“ใช่”
แซคบอกพร้อมกับกระดกโค้กเข้าปาก “หรือจะเรียกว่ารางวัลขวัญใจช่างภาพก็ได้”
“ของใคร นายหรือฉัน?”
“ของทั้งคู่ คนให้บอกว่าเราสองคนดูดีมาก”
“ตลกน่า ฉันคลุกทรายจนเละแบบนั้น”
แต่แซคยิ้มซุกซน “น่ารักดีออก
เซ็กซี่ด้วยซ้ำไป”
“ลามปามนะ! เดี๋ยวเหอะ! ” ฉันเงื้อมือสูงฟาดแซค แต่มือใหญ่ของเขาเคลื่อนมารับไว้
ก่อนที่เขาจะจะดันจนทั้งร่างของฉันล้มหงายกลับลงไปนอนบนเตียงดังตึง “อ๊ะ...”
แซคยังกำมือฉันไว้แน่น
ร่างสูงของเขาคร่อมอยู่เหนือร่างของฉัน
และใบหน้าของเขาก็อยู่ใกล้ชิดกับใบหน้าของฉัน
ดวงตาสีคาราเมลงดงามจ้องมองฉันอย่างจริงจัง ก่อนจะลากสายตาต่ำลงไปที่ริมฝีปากของ
ฉันสัมผัสได้ว่าเขาหายใจสะดุดเล็กน้อย
“...แซค...? ”
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก
แล้วก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วมากเช่นกัน
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นก็ดูเหมือนแซคจะกลับมาเป็นปกติ เขาปล่อยมือและผละจากฉัน
ก่อนจะเสยผมสีคาราเมลเหมือนจะสลัดความคิดบางอย่างออกไป “ให้ตายสิวิคกี้
เธอทำให้ฉันลืมหมดเลยว่ากำลังจะพูดอะไร จริงสิ ฉันจะกำลังจะบอกข่าวดีกับเธอนี่
เรากำลังจะได้เงินก้อนใหญ่แล้ว”
“เงินอะไร เงินปลอบใจที่ตกรอบเหรอ”
“เงินจากการรับงานใหญ่งานหนึ่งต่างหาก”
“งานใหญ่...? ”
“เป็นงานที่เธอจะคิดไม่ถึงเลยล่ะวิค”
“งานอะไร?”
“ชิดๆ กันหน่อยค่ะ ชิดๆ กันเลยนะ”
พี่ๆ ทีมงานร้องบอก
ฉันอยู่ในชุดบิกินี่ทั้งที่แข่งเสร็จไปแล้ว
ส่วนแซคก็อยู่ในชุดกางเกงว่ายน้ำ ตอนนี้ร่างกายของเราประกบแนบกัน
งานที่แซคบอกว่าจะทำให้เราได้เงินก้อนใหญ่ก็คืองานถ่ายแบบชุดว่ายน้ำนั่นเอง
ถึงพวกเราจะแพ้วอลเล่ย์บอลล์แต่มีแมวมองเห็นพวกเราเข้า
เขาเลยทาบทามเราสองคนให้มาถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ
แต่การถ่ายแบบครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายเพราะพวกเรากำลังจะกลับแคนาดา
พี่ๆ ทีมงานบ่นเสียดายที่เราไม่ได้อยู่อเมริกา
เพราะไม่อย่างนั้นพวกเขาจะได้เรียกเรามาถ่ายแบบให้บ่อยๆ
พี่ๆ
บอกให้ฉันยกมือวางบนแผงอกเปล่าๆ ของแซค แล้วก็บอกให้แซคเอามือวางที่สะโพกสองข้างของฉัน
“ชิดๆ กันอีกค่ะ”
แซคก็เลยทำตามคำสั่ง
ทำให้เวลานี้เอวของเราสัมผัสกันแบบไร้ช่องว่าง
“ไม่ใช่วางมือแปะลงไปเป็นไฮไฟว์แบบนั้นนะคะวิคกี้
ใส่อารมณ์หน่อย”
“ใส่อารมณ์...!?” ฉันหันไปถามพี่ๆ ด้วยสีหน้าใสซื่อ
“อารมณ์อะไรคะ...!?”
“ก็อารมณ์เหมือนเป็นแฟนกันไง”
“หา? นี่พี่ๆไม่ได้ให้มายืนถ่ายตรงๆ
เหมือนถ่ายรูปติดบัตรเหรอคะ? แล้วให้จินตนาการว่าเป็นแฟนแซคเนี่ยนะ!? ตลกแล้ว!
” ฉันทำหน้าเหยเก
“จะถอนตัวก็ยังทันนะ
สามหมื่นดอลล์เอง ฉันไม่เอาก็ได้” แซคบอกอย่างไม่แยแส
“แต่...สามหมื่นดอลล่าร์...” ฉันนิ่งคิด
“ว่าไง ฉันแล้วแต่เธออยู่แล้ว”
แปะ! แซคสะดุ้งแผ่วเมื่อฉันวางมือลงบนแผ่นอกของเขาอีกครั้ง
ทว่าครั้งนี้ด้วยอารมณ์แบบใหม่เหมือนที่ผู้หญิงจะสัมผัสผู้ชายที่รักตามที่พี่ๆ
กำชับ ฉันจิกตาเลียนแบบนางแบบมือโปรอีกด้วย
“ว้าว เยี่ยมมากค่ะน้องวิคกี้”
แชะๆๆๆๆๆ
“คราวนี้วิคกี้ยืนโพสต์สวยๆ นะคะ
แซคไปยืนซ้อนด้านหลังค่ะ กุมต้นแขนวิคกี้ไว้ ลองดูนะ”
ฉันหายใจสะดุดเพราะสัมผัสของแซค
เขาสัมผัสฉันด้วยอารมณ์ที่ต่างออกไปเหมือนกัน และฉันไม่ได้เตรียมใจไว้เพียงพอ
มือของแซคค่อยๆ ลากแผ่วขึ้นไปตามช่วงแขนของฉัน แล้วมือร้อนนั้นก็เกาะกุมต้นแขนของฉันไว้
ร่างสูงของแซคเคลื่อนเข้ามาจนชิดแผ่นหลังของฉัน
ร่างของเขาร้อนผ่าว
ร้อนจนฉันสงสัยว่าเขาอาจจะไม่สบาย ฉันไม่รู้เลยจริงๆ
ว่าร่างกายปกติของผู้ชายจะร้อนได้แค่ไหน
หรือบางทีคนเราก็ตัวร้อนแบบนี้อยู่แล้ว...?
ฉันได้ยินเสียงแซคหายใจ ลมหายใจนั้นร้อนเมื่อรินรดลงบนไหล่ของฉัน
ทำให้ฉันรู้ว่าใบหน้าของเขาก้มต่ำลงมาตามที่ทีมงานสั่ง
“เยี่ยมมากค่ะ”
แชะๆๆๆ
“เสร็จแล้วค่ะ
ต่อไปให้ทั้งสองคนไปนอนตะแคงบนพื้นทรายค่ะ” พี่คนหนึ่งสั่ง
“แล้วน้องวิคกี้มานอนตะแคงซ้อนข้างหน้านะคะ”
ฉันกับแซคนอนลง
“ชิดๆ กันค่ะ วิคกี้ถอยไปข้างหลังอีกสิคะ”
ฉันกระเถิบร่างถอยหลัง
“แซคกอดวิคกี้เลยค่ะ”
แล้วแขนของแซคที่สีเข้มขึ้นเพราะแดดเลียก็เลื่อนมาโอบที่เอวเล็กๆ
ของฉัน แล้วร่างของเขาเองก็ขยับเข้ามาใกล้เช่นกัน...
ร่างของแซคอยู่ชิดร่างของฉัน ชิดแนบเสียจนแผ่นหลังของฉันรับรู้จังหวะหายใจขึ้นลงของเขาได้
แล้วมือร้อนของแซคซึ่งรั้งราวกับล้อเล่นอยู่ที่เอวของฉันก็รั้งร่างของฉันเข้าไปแนบชิดอีก
เขาทำมากกว่าที่ทีมงานสั่ง แต่บางทีเขาอาจแค่เป็นคนที่ตั้งใจทำงาน
แซคตั้งใจเสมอในทุกเรื่องที่เขาทำ ไม่ว่าจะซ่อมของ กินผัก แข่งวอลเล่ย์
หรือแม้แต่เวลานี้...
แชะๆๆๆ
คราวนี้พี่ๆ ให้ฉันนอนหงาย
ชันเข่าหนึ่งข้าง ก่อนจะให้แซคย้ายมานอนคร่อมอยู่ข้างบน ให้เขาเอาศอกยันพื้นไว้
แล้วเราก็เล่นเกมจ้องตากัน
เวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน
เกมจ้องตาทำให้ฉันอึดอัดและหายใจยาก และด้วยระยะที่อยู่ชิดกันมากกว่าทุกครั้งทำให้ฉันเห็นดวงตาของแซคชัดเจนกว่าทุกครั้ง
เขามีสีของดวงตาที่สวยน่ามองอย่างเหลือเชื่อ
...ฉันได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นตึกตัก...
“พลิกกลับเลยค่ะ พี่ลองไม่บอกบทบ้างนะคะ
ลองจัดท่ากันเองได้เลย”
ฉันตกใจเมื่อจบคำของทีมงานแซคก็พลิกร่างหงาย
มือของเขารั้งร่างของฉันให้พลิกขึ้นไปนอนคร่อมอยู่บนร่างของเขาบ้าง
ฉันกลั้นใจไม่ให้โวยวายราวกับเด็กหัดใหม่
ทั้งที่ท่าโพสต์นี้ชิดใกล้เสียจนร่างของฉันเคลื่อนไหวขึ้นลงตามจังหวะหายใจของร่างสูงด้านล่าง
“จริงๆ เลยนายนี่! “ ฉันว่า
“ดีมากค่ะ นิ่งๆ นะคะ”
แชะๆๆๆๆ
ให้ตายสิ
ฉันอยากให้การถ่ายแบบจบลงในวินาทีนี้เลย
แซคดูจะสนุกแล้วก็ตั้งใจกับงานถ่ายแบบเกินไปเสียแล้ว
มือใหญ่ของเขาที่ทาบลงมาบนร่างฉันนั้นร้อนราวกับไฟ
แล้วไหนจะไอร้อนจากร่างกายของเขาอีก
เรากลับไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำมาอีกรอบ
คราวนี้ทีมงานให้เราทั้งคู่นั่งบนทราย พี่ๆ บอกให้ฉันนั่งลงไปบนร่างของเขา
หันหน้าเขาหาเขา และรั้งท้ายทอยของเขาไว้ แล้วพี่ๆ
ก็สั่งให้ให้แซคซบหน้าลงบนไหล่ของฉัน
“อ้าว กล้องเป็นไรไม่รู้ รอแป๊บนะ
อย่าเพิ่งขยับไปไหนล่ะ” อยู่ๆ พี่ตากล้องก็พูดขึ้นแล้วรีบวิ่งไปซ่อมกล้อมเสียไกล
ทีมงานคนอื่นก็เดินหายไปทำธุระหรือยืดเส้นยืดสายชั่วคราว
“อ้าว เฮ้ ให้ค้างอยู่ท่านี้เนี่ยนะ
ตลกแล้ว! ” ฉันแอบบ่น
“อย่าบ่นน่า”
“จะซ่อมนานไหมเนี่ย”
“เดี๋ยวก็มาแล้วมั้ง นิ่งๆ เหอะ”
เสียงปรามของแซคดังอยู่ชิดหัวไหล่ของฉัน...ร่างของเขาแนบชิดเหมือนจะหลอมรวมกัน
โอย...
“ฉันรู้น่า”
แซคล็อคฉันไว้ราวกับจะไม่ให้ฉันผละไป...ราวกับไม่อยากให้ฉันขยับด้วยซ้ำไป
...ฉันอยากรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร...
“มาแล้วๆๆ” พี่ๆ
วิ่งกระหืดกระหอบกลับมา
แชะๆๆๆๆ
ฉันโล่งใจและถามพี่ๆ
“เสร็จแล้วใช่ไหมคะ”
“โอ๊ย ยังหรอกค่ะ” พี่ๆ
พูดเหมือนเราเพิ่งเริ่มถ่ายกันเท่านั้น “คราวนี้ยืนน้องวิคกี้ขี่คอแซคค่ะ
“ขะ...ขี่คอ?!”
“ทำหน้าตกใจแบบนั้นกลัวฉันทำเธอหล่นหรือไง”
แซคล้อขณะที่สองมีอใหญ่เคลื่อนมากุมเอวของฉัน
แล้วยกรางของฉันจนลอยขึ้นไปนั่งคร่อมลงบนคอของเขาอย่างสบายๆ
“เปล๊า”
ฉันจะไม่ให้แซครู้ว่าฉันเกร็งแค่ไหน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเรื่องจะบานปลาย
และเขาคงหัวเราะเยาะฉันด้วย “ก็แค่ขี่คอเอง”
ฉันก็เลยนั่งอยู่บนคอของแซค
เนื้อตัวเราสัมผัสกันมานานและมากเกินไปแล้ว
ยิ่งกว่านั้นมือแซคยังจับต้นขาฉันไว้มั่นเพื่อไม่ให้ฉันหงายหลังร่วงลงไปด้วย
“อ๊ะ?”
ฉันร้องเมื่อปลายนิ้วของแซคขยุ้มต้นขาของฉัน
“ระวังตก” เขาบอกนิ่งๆ
“อะ...อื้ม ฉันไม่โง่ตกลงไปหรอกน่า”
...ฉันรู้สึกแปลก...
ถึงฉันจะใส่บิกินี่แข่งวอลเล่ย์กับเขามาก่อนหลายวัน
เราตบไหล่กัน ผลักกัน ล็อคคอกัน และฉุดกระชากลากถูกกันก็บ่อย
แต่เพราะเป็นกีฬาฉันกับเขาก็เลยไม่รู้สึกแปลกอะไร แต่พอถูกชวนมาถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ
ฉันกลับไม่รู้สึกเหมือนการเล่นวอลเล่ย์บอลด้วยกันเลยสักนิดเดียว
แล้วก็ถึงเวลาที่แซคเอื้อมสองแขนมาคว้าเอวของฉันเพื่อยกตัวฉันลงมาจากคอของเขา
และโดยไม่ต้องวางฉันที่พื้นก่อนเขาก็เปลี่ยนท่าฉันให้กลายเป็นท่านอน
และแขนแข็งแรงของแซคช้อนร่างฉันไว้อย่างสบายๆ
“วิคกี้นี่น่ารักนะ
ตัวอุ่นกำลังดีด้วย” แซคพูดกับฉัน
“ไม่ต้องวิจารณ์เลยนะ!” ฉันดุเขา
หวังไม่ให้เข้าเคลิ้มและคิดเลยเถิด
“ฉันแค่คิดว่ามันดีที่เธอไม่ได้ตัวร้อนเป็นไฟเหมือนวันนั้น
รู้ไหมวันที่เธอเป็นไข้ฉันตกใจแค่ไหน”
“ฉันตกใจกว่านายอีกจะบอกให้! ” ฉันยังว่าเขา
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพูดของเขาอบอุ่นและอ่อนโยน สายตาของเขาที่มองฉันอย่างห่วงใยก็เช่นกัน
ดวงตางดงามของเพื่อนคนนี้ราวกับมองล้วงลึกเข้ามาในดวงตาของฉันมากกว่านั้น
กล้ามเนื้อแข็งแรงของเขายังสัมผัสแนบกับผิวของฉัน และฉันสัมผัสได้ว่าเขาหายใจสะดุด
ฉันภาวนาในใจให้แซคไม่ชอบฉัน
ฉันเป็นฝ่ายผิดเองที่รับงานถ่ายแบบนี้ไว้ แต่เราก็เริ่มมาไกลเกินกว่าจะเลิกกลางคันได้
“ช็อตสุดท้ายแล้วค่ะ”
ฉันโล่งใจเมื่อได้ยินเสียงทีมงานบอก
ถึงจะแอบกลัวเมื่อคิดว่าฉากสุดท้ายอาจเป็นฉากที่ยากกว่าการโพสต์ที่ผ่านมา
“วิคกี้นอนลง แซคอยู่ข้างบนนะ”
ท่านี้ทำให้เหมือนแซคนอนคร่อมอยู่เหนือร่างของฉัน
“แซคจับวิคกี้ไว้ แล้วก้มลงมาค่ะ
ชิดอีกๆ“
แซคก้มลงมาแล้ว
เขาเคลื่อนเข้ามาชิดฉันมากฉันก็เลยยันมือต้านกับแผ่นอกเขาเพื่อดันลำตัวช่วงบนของเขาออกห่างจากเขาโดยอัตโนมัติ
แล้วแซคก็โน้มใบหน้าลงมาอีกจนหน้าผากของเราเกือบจะชนกัน
“ทำเหมือนจะจูบกันสิคะ”
ในที่สุดสิ่งที่ฉันหวาดกลัวอยู่ก็เป็นจริง
“อย่าหลับตาปี๋สิวิคกี้ ฮะๆๆ” พี่ๆ
ตากล้องหัวเราะ “ไม่ได้ให้จูบจริงหรอกน่า แค่เอาหน้ามาชิดๆ กันเฉยๆ “
พวกเราชิดเข้ามา...ใบหน้าชิดใบหน้า
และชิดเข้าไปอีก
“ชิดๆ เลยนะ”
ตอนนี้ริมฝีปากของฉันอยู่ห่างจากริมฝีปากของแซคไม่ถึงหนึ่งนิ้วแล้ว
“แซค นายอย่าคิดมากนะ นี่มันแค่งาน”
“ชิดเข้าไปอีก”
กึก การเคลื่อนไหวหยุดแล้ว
ริมฝีปากของเราอยู่ชิดกันไม่ถึงนิ้ว
ฉันมั่นใจว่าการถ่ายรูปสุดท้ายคงจะจบลงเมื่อได้ยินเสียงรัวชัตเตอร์และเสียงชมจากพี่ๆ
ไม่หยุดปาก ทว่าร่างสูงของแซคที่แนบกับร่างฉันอยู่ก็ยังร้อนจัด
ฉันไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่
ฉันรู้สึกเหมือนผ่านไปนานเป็นชั่วโมงหรืออาจจะมากกว่า
แขนของแซค...มือของแซค...ทั้งร่างของเขายังสัมผัสแนบกับฉันแม้แต่ขณะที่พี่ๆ
ร้องขึ้น
“เสร็จแล้ว! เยี่ยมไปเลย! ไปก่อนล่ะ!! ”
แล้วทีมงานก็วิ่งตึกๆๆ สลายตัวไป
เหลือไว้แต่ฝุ่นทราย ทันใดนั้น...
สุดท้ายสิ่งที่ฉันระแวงอยู่ก็เกิดขึ้นจนได้
แซคไม่ได้คลายมือจากฉัน
ร่างของเขาไม่ได้ผละออกไป แต่แซคจูบฉัน...จูบอย่างแนบแน่นและอ่อนหวาน เขาทาบทับริมฝีปากร้อนราวกับแสงแดดริมชายหาดลงบนริมฝีปากของฉัน...ริมฝีปากที่ไม่เคยถูกใครจูบมาก่อนเลย
เฟิร์สคิสของฉันถูกช่วงชิงไป...
“แซค...นาย...”
บันทึกพิเศษ
-แซค แบรนดอน-
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงตัวบางๆ
อย่างวิคกี้จะหัวใจแกร่งขนาดนี้ ผมก็ไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นๆ
ที่มาเชียร์การแข่งขันที่ไม่อยากจะละสายตาไปจากวิคกี้เลย
แต่ถึงเธอจะดูสวยน่ารักเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ เธอกลับมีมือตบที่หนัก เรี่ยวแรงและพลังใจก็มากเสียจนผู้ชายอย่างผมยังต้องยกนิ้วให้
ผมอดไม่ได้ที่จะมองดูวิคกี้วิ่งไปวิ่งมา
รับบอลและแข่งอย่างไม่รู้เหนื่อย
แต่ผมเชื่อนะว่าไม่ใช่เพราะเธอแข็งแรงกว่าคนอื่น
แต่หัวใจที่เข้มแข็งและจริงจังของเธอต่างหากที่ทำให้เธอยืนหยัดอยู่ได้
ถึงเธอจะถูกบอลอัดใส่หลายครั้ง
และถูกผู้ชายที่เชียร์เป่าปากใส่ตามธรรมดาของผู้หญิงสวยแบบนั้นก็เหอะ
ผมสิที่ยอมแพ้
ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นเพื่อนอย่างเธอต้องแข่งขันดุเดือดอีกต่อไป
และผมก็ไม่เสียใจเลยที่ผมวิ่งเข้าไปรวบตัวเธอและหยุดเธอไว้
นั่นอาจจะเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดเธอจากการทำร้ายตัวเองขนาดนั้นได้
แล้วผมก็ได้พบว่าเธอเป็นผู้หญิงธรรมดาอย่างที่ผมเข้าใจจริงๆ
เธอตัวเบามาก
แล้วก็ดูไม่เหลือเรี่ยวแรงอะไรเลยตอนที่ผมช้อนตัวเธอขึ้นและพาเธอเดินออกไป
เธอคงจะหมดสติไปแล้ว
ที่จริงร่างกายของเธอบอบบางเกินกว่าจะรับหัวใจที่แกร่งเกินไปของเธอ ผมคิดแบบนั้น
ทีละนิด
ผมรู้สึกว่าหัวใจผมอบอุ่นขึ้นเมื่ออยู่ข้างวิคกี้
และมันก็กลายเป็นความร้อนเหมือนไฟเมื่อเราถ่ายแบบชุดว่ายน้ำด้วยกัน การได้กอดเธอ
ได้อยู่ใกล้ๆ เธอ...น่าแปลกที่มันกลายเป็นการเติมเต็มความต้องการที่อยู่ลึกๆ
ในตัวผม ซึ่งผมไม่เคยคิดว่ามีมันอยู่ แต่มันก็ถูกปลุกขึ้นมา
แต่ผมรู้ว่าวิคกี้ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับผม
ไม่อย่างนั้นตอนที่ผมนวดแขนนวดขาให้เธอ เธอจะเผลอหลับไปแบบนั้นได้อย่างไร
แต่ผมก็รู้นะว่าเพราะอะไร เพราะเธอแอบชอบแคเมรอนอย่างไรล่ะ
แล้วตอนที่เราอยู่ใกล้กันมากๆ
ผมก็เผลอตัวเผลอใจจนได้
ผมจูบเธอ ให้ตายสิ
ทั้งที่เราเป็นแค่ “เพื่อน” และผมก็อยากให้เราเป็นเพื่อนกันไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นไปได้
แต่ผมไม่เสียใจสักนิดที่พลาดไปแบบนั้น ในเมื่อมันเกิดจากความรู้สึกดีมากๆ
ที่มีให้เธอ และที่สำคัญผมไม่เคยเป็นผู้ชายที่ชอบฉวยโอกาส หวังว่าเธอคงเข้าใจฉันนะวิคกี้
ขอโทษทีนะเพื่อน
วิทยาลัยอาร์เธอร์
-วิคกี้ วัตสัน-
“เฮ้ วิคกี้
ไม่ไปกินสลัดออร์แกนิคกันอีกเหรอ” แซคทักฉันหลังเลิกเรียน
เรากลับจากอเมริกาได้สองวันแล้ว
“สลัด? ”
ฉันเพิ่งนึกได้ว่าเรามีนัดกินสลัดกัน
แต่พอเกิดเรื่องหลังจากถ่ายแบบเสร็จวันนั้นฉันก็เริ่มหลบหน้าแซคเล็กน้อย
ฉันคิดเสมอว่าคนหล่อและแสนดีอย่างแซคสูงส่งเกินไปสำหรับฉัน
ฉันคิดว่าเขาน่าจะได้เดทกับผู้หญิงที่ดีกว่าฉันหลายสิบเท่า
“ไปกินวันนี้เลยไหม” แซคถามอีก
“ก็...”
“ฉันเลี้ยงนะ ถือเป็นการขอบคุณ”
“โอเค”
“ซีซ่าร์สลัด!? ”
แซคตกตะลึงเมื่อสลัดชามโตราวกับภูเขาที่ฉันสั่งถูกเสริ์ฟลงตรงหน้า
ฉันยิ้มร้าย
ย้อนนึกถึงบทความในนิตยสารที่แนะว่าให้เลี่ยงซีซ่าสลัดเป็นสิ่งแรกในการออกเดต เพราะผักใบใหญ่กับน้ำสลัดข้นๆ
ของมันเลื่องชื่อที่สุดในการทำให้คนกินต้องอ้าปากกว้างจนน่าเกลียด
แถมใบหน้าก็จะเลอะเทอะไปด้วยน้ำสลัดจนหมดความงาม
เพราะฉะนั้นสลัดจากนี้ถึงได้เหมาะมากกับฉันในเวลานี้
เพราะหลังจากที่ฉันกินสลัดซีซ่าร์ให้แซคดูเขาคงจะผวาและเลิกชอบฉันตลอดไป!
วันนี้แซคกินผักได้มากขึ้นอย่างน่าพอใจโดยไม่ต้องเคี่ยวเข็ญ
ดูราวกับเขาอยากจะเอาใจฉัน ส่วนฉันก็ยัดสลัดคำใหญ่เข้าปากไม่ยั้งโดยที่แซคมองนิ่งๆ
ไม่ว่าอะไร แต่ฉันรู้ เขากำลังตกใจที่ฉันกินมูมมามได้ขนาดนี้
และเขากำลังเริ่มหมดความสนใจในตัวฉัน
เมื่อกินอิ่มกันแล้วแซคก็หัวเราะคิก
“หัวเราะอะไรของนาย! ” ฉันแหวใส่
“ก็หน้าเธอน่ะ เลอะไปหมดแล้ว”
เขาชี้
ฉันก็เลยเช็ดถูหน้ายกใหญ่
“ตรงนั้นด้วย ซ้าย ขวา ซ้าย”
เขาบอกเหมือนพากย์มวยไม่มีผิด!
“บอกว่าซ้ายไง!”
เขาจิ๊ปากอย่างทนรำคาญต่อไปไม่ได้ ก่อนจะโน้มตัวข้ามโต๊ะมา “มานี่ ฉันเช็ดให้ เปื้อนไปถึงหัวแล้ว หลับตาสิ!
”
ฉันก็เลยหลับตา
และทั้งที่ฉันน่าจะรู้ว่าสิ่งนี้อาจเกิดขึ้น...
ปากอุ่นจัดของแซคทาบลงมาที่เรียวปากของฉันอย่างแนบแน่นและอ่อนหวาน
เขาเช็ดน้ำสลัดให้ฉันด้วยวิธีที่แสนจะชิดใกล้
และฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขาไปเรียนวิธีเช็ดน้ำสลัดแบบนี้มาจากไหน
…ฉันถูกแซคจูบอีกแล้ว!
หลับตาลงแล้วติดปีกสีดำบินไปในความมืดอันเป็นนิรันดร์
กับซีรี่ส์ Vampire and I เทพนิยายรักดาร์คโรแมนติก
อ่านสิ
...แล้วบางทีคืนนี้คุณอาจได้พบแวมไพร์...
- D a y d r e a m -
|
|
|
|