protect copy

วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Maple Rhapsody บทที่ 7 First Kiss







ถึงฉันกับแซคจะถอนตัวจากการแข่งขันก่อนจะทันได้เงินรางวัลอะไร แต่ฉันก็ต้องแปลกใจที่มีรางวัลอีกรางวัลที่คาดไม่ถึงมาส่งตรงให้
“ว่าอะไรนะ!? รางวัลขวัญใจสื่อมวลชน?!” ฉันกระเด้งขึ้นจากเตียง หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
“ใช่” แซคบอกพร้อมกับกระดกโค้กเข้าปาก “หรือจะเรียกว่ารางวัลขวัญใจช่างภาพก็ได้”
“ของใคร นายหรือฉัน?”
“ของทั้งคู่ คนให้บอกว่าเราสองคนดูดีมาก”
“ตลกน่า ฉันคลุกทรายจนเละแบบนั้น”
แต่แซคยิ้มซุกซน “น่ารักดีออก เซ็กซี่ด้วยซ้ำไป”
“ลามปามนะ! เดี๋ยวเหอะ! ” ฉันเงื้อมือสูงฟาดแซค แต่มือใหญ่ของเขาเคลื่อนมารับไว้ ก่อนที่เขาจะจะดันจนทั้งร่างของฉันล้มหงายกลับลงไปนอนบนเตียงดังตึง “อ๊ะ...”




แซคยังกำมือฉันไว้แน่น ร่างสูงของเขาคร่อมอยู่เหนือร่างของฉัน และใบหน้าของเขาก็อยู่ใกล้ชิดกับใบหน้าของฉัน ดวงตาสีคาราเมลงดงามจ้องมองฉันอย่างจริงจัง ก่อนจะลากสายตาต่ำลงไปที่ริมฝีปากของ ฉันสัมผัสได้ว่าเขาหายใจสะดุดเล็กน้อย
“...แซค...? ”
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก แล้วก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วมากเช่นกัน ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นก็ดูเหมือนแซคจะกลับมาเป็นปกติ เขาปล่อยมือและผละจากฉัน ก่อนจะเสยผมสีคาราเมลเหมือนจะสลัดความคิดบางอย่างออกไป “ให้ตายสิวิคกี้ เธอทำให้ฉันลืมหมดเลยว่ากำลังจะพูดอะไร จริงสิ ฉันจะกำลังจะบอกข่าวดีกับเธอนี่ เรากำลังจะได้เงินก้อนใหญ่แล้ว”
“เงินอะไร เงินปลอบใจที่ตกรอบเหรอ”
“เงินจากการรับงานใหญ่งานหนึ่งต่างหาก”
“งานใหญ่...? ”
“เป็นงานที่เธอจะคิดไม่ถึงเลยล่ะวิค”
“งานอะไร?”

“ชิดๆ กันหน่อยค่ะ ชิดๆ กันเลยนะ” พี่ๆ ทีมงานร้องบอก
ฉันอยู่ในชุดบิกินี่ทั้งที่แข่งเสร็จไปแล้ว ส่วนแซคก็อยู่ในชุดกางเกงว่ายน้ำ ตอนนี้ร่างกายของเราประกบแนบกัน งานที่แซคบอกว่าจะทำให้เราได้เงินก้อนใหญ่ก็คืองานถ่ายแบบชุดว่ายน้ำนั่นเอง
ถึงพวกเราจะแพ้วอลเล่ย์บอลล์แต่มีแมวมองเห็นพวกเราเข้า เขาเลยทาบทามเราสองคนให้มาถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ แต่การถ่ายแบบครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายเพราะพวกเรากำลังจะกลับแคนาดา พี่ๆ ทีมงานบ่นเสียดายที่เราไม่ได้อยู่อเมริกา เพราะไม่อย่างนั้นพวกเขาจะได้เรียกเรามาถ่ายแบบให้บ่อยๆ
พี่ๆ บอกให้ฉันยกมือวางบนแผงอกเปล่าๆ ของแซค แล้วก็บอกให้แซคเอามือวางที่สะโพกสองข้างของฉัน
“ชิดๆ กันอีกค่ะ”
แซคก็เลยทำตามคำสั่ง ทำให้เวลานี้เอวของเราสัมผัสกันแบบไร้ช่องว่าง
“ไม่ใช่วางมือแปะลงไปเป็นไฮไฟว์แบบนั้นนะคะวิคกี้ ใส่อารมณ์หน่อย”
“ใส่อารมณ์...!?” ฉันหันไปถามพี่ๆ ด้วยสีหน้าใสซื่อ “อารมณ์อะไรคะ...!?
 “ก็อารมณ์เหมือนเป็นแฟนกันไง”
 “หา? นี่พี่ๆไม่ได้ให้มายืนถ่ายตรงๆ เหมือนถ่ายรูปติดบัตรเหรอคะ? แล้วให้จินตนาการว่าเป็นแฟนแซคเนี่ยนะ!? ตลกแล้ว! ” ฉันทำหน้าเหยเก
“จะถอนตัวก็ยังทันนะ สามหมื่นดอลล์เอง ฉันไม่เอาก็ได้” แซคบอกอย่างไม่แยแส
“แต่...สามหมื่นดอลล่าร์...” ฉันนิ่งคิด
“ว่าไง ฉันแล้วแต่เธออยู่แล้ว”
แปะ! แซคสะดุ้งแผ่วเมื่อฉันวางมือลงบนแผ่นอกของเขาอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ด้วยอารมณ์แบบใหม่เหมือนที่ผู้หญิงจะสัมผัสผู้ชายที่รักตามที่พี่ๆ กำชับ ฉันจิกตาเลียนแบบนางแบบมือโปรอีกด้วย
 “ว้าว เยี่ยมมากค่ะน้องวิคกี้”
 แชะๆๆๆๆๆ
 “คราวนี้วิคกี้ยืนโพสต์สวยๆ นะคะ แซคไปยืนซ้อนด้านหลังค่ะ กุมต้นแขนวิคกี้ไว้ ลองดูนะ”
ฉันหายใจสะดุดเพราะสัมผัสของแซค เขาสัมผัสฉันด้วยอารมณ์ที่ต่างออกไปเหมือนกัน และฉันไม่ได้เตรียมใจไว้เพียงพอ มือของแซคค่อยๆ ลากแผ่วขึ้นไปตามช่วงแขนของฉัน แล้วมือร้อนนั้นก็เกาะกุมต้นแขนของฉันไว้ ร่างสูงของแซคเคลื่อนเข้ามาจนชิดแผ่นหลังของฉัน
ร่างของเขาร้อนผ่าว ร้อนจนฉันสงสัยว่าเขาอาจจะไม่สบาย ฉันไม่รู้เลยจริงๆ ว่าร่างกายปกติของผู้ชายจะร้อนได้แค่ไหน หรือบางทีคนเราก็ตัวร้อนแบบนี้อยู่แล้ว...?
ฉันได้ยินเสียงแซคหายใจ ลมหายใจนั้นร้อนเมื่อรินรดลงบนไหล่ของฉัน ทำให้ฉันรู้ว่าใบหน้าของเขาก้มต่ำลงมาตามที่ทีมงานสั่ง
“เยี่ยมมากค่ะ”
แชะๆๆๆ
 “เสร็จแล้วค่ะ ต่อไปให้ทั้งสองคนไปนอนตะแคงบนพื้นทรายค่ะ” พี่คนหนึ่งสั่ง “แล้วน้องวิคกี้มานอนตะแคงซ้อนข้างหน้านะคะ”
ฉันกับแซคนอนลง
 “ชิดๆ กันค่ะ วิคกี้ถอยไปข้างหลังอีกสิคะ”
ฉันกระเถิบร่างถอยหลัง
“แซคกอดวิคกี้เลยค่ะ”
แล้วแขนของแซคที่สีเข้มขึ้นเพราะแดดเลียก็เลื่อนมาโอบที่เอวเล็กๆ ของฉัน  แล้วร่างของเขาเองก็ขยับเข้ามาใกล้เช่นกัน...
ร่างของแซคอยู่ชิดร่างของฉัน ชิดแนบเสียจนแผ่นหลังของฉันรับรู้จังหวะหายใจขึ้นลงของเขาได้
แล้วมือร้อนของแซคซึ่งรั้งราวกับล้อเล่นอยู่ที่เอวของฉันก็รั้งร่างของฉันเข้าไปแนบชิดอีก เขาทำมากกว่าที่ทีมงานสั่ง แต่บางทีเขาอาจแค่เป็นคนที่ตั้งใจทำงาน แซคตั้งใจเสมอในทุกเรื่องที่เขาทำ ไม่ว่าจะซ่อมของ กินผัก แข่งวอลเล่ย์ หรือแม้แต่เวลานี้...
แชะๆๆๆ  
คราวนี้พี่ๆ ให้ฉันนอนหงาย ชันเข่าหนึ่งข้าง ก่อนจะให้แซคย้ายมานอนคร่อมอยู่ข้างบน ให้เขาเอาศอกยันพื้นไว้ แล้วเราก็เล่นเกมจ้องตากัน
เวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน เกมจ้องตาทำให้ฉันอึดอัดและหายใจยาก และด้วยระยะที่อยู่ชิดกันมากกว่าทุกครั้งทำให้ฉันเห็นดวงตาของแซคชัดเจนกว่าทุกครั้ง เขามีสีของดวงตาที่สวยน่ามองอย่างเหลือเชื่อ
...ฉันได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นตึกตัก...
 “พลิกกลับเลยค่ะ พี่ลองไม่บอกบทบ้างนะคะ ลองจัดท่ากันเองได้เลย”
ฉันตกใจเมื่อจบคำของทีมงานแซคก็พลิกร่างหงาย มือของเขารั้งร่างของฉันให้พลิกขึ้นไปนอนคร่อมอยู่บนร่างของเขาบ้าง ฉันกลั้นใจไม่ให้โวยวายราวกับเด็กหัดใหม่ ทั้งที่ท่าโพสต์นี้ชิดใกล้เสียจนร่างของฉันเคลื่อนไหวขึ้นลงตามจังหวะหายใจของร่างสูงด้านล่าง
“จริงๆ เลยนายนี่! “ ฉันว่า
“ดีมากค่ะ นิ่งๆ นะคะ”
แชะๆๆๆๆ
ให้ตายสิ ฉันอยากให้การถ่ายแบบจบลงในวินาทีนี้เลย แซคดูจะสนุกแล้วก็ตั้งใจกับงานถ่ายแบบเกินไปเสียแล้ว มือใหญ่ของเขาที่ทาบลงมาบนร่างฉันนั้นร้อนราวกับไฟ แล้วไหนจะไอร้อนจากร่างกายของเขาอีก
เรากลับไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำมาอีกรอบ คราวนี้ทีมงานให้เราทั้งคู่นั่งบนทราย พี่ๆ บอกให้ฉันนั่งลงไปบนร่างของเขา หันหน้าเขาหาเขา และรั้งท้ายทอยของเขาไว้ แล้วพี่ๆ ก็สั่งให้ให้แซคซบหน้าลงบนไหล่ของฉัน
“อ้าว กล้องเป็นไรไม่รู้ รอแป๊บนะ อย่าเพิ่งขยับไปไหนล่ะ” อยู่ๆ พี่ตากล้องก็พูดขึ้นแล้วรีบวิ่งไปซ่อมกล้อมเสียไกล ทีมงานคนอื่นก็เดินหายไปทำธุระหรือยืดเส้นยืดสายชั่วคราว
“อ้าว เฮ้ ให้ค้างอยู่ท่านี้เนี่ยนะ ตลกแล้ว! ” ฉันแอบบ่น
 “อย่าบ่นน่า”
“จะซ่อมนานไหมเนี่ย”
“เดี๋ยวก็มาแล้วมั้ง นิ่งๆ เหอะ”
เสียงปรามของแซคดังอยู่ชิดหัวไหล่ของฉัน...ร่างของเขาแนบชิดเหมือนจะหลอมรวมกัน โอย...
“ฉันรู้น่า”
แซคล็อคฉันไว้ราวกับจะไม่ให้ฉันผละไป...ราวกับไม่อยากให้ฉันขยับด้วยซ้ำไป
...ฉันอยากรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร...
“มาแล้วๆๆ” พี่ๆ วิ่งกระหืดกระหอบกลับมา
แชะๆๆๆๆ
ฉันโล่งใจและถามพี่ๆ “เสร็จแล้วใช่ไหมคะ”
“โอ๊ย ยังหรอกค่ะ” พี่ๆ พูดเหมือนเราเพิ่งเริ่มถ่ายกันเท่านั้น “คราวนี้ยืนน้องวิคกี้ขี่คอแซคค่ะ
“ขะ...ขี่คอ?!
“ทำหน้าตกใจแบบนั้นกลัวฉันทำเธอหล่นหรือไง” แซคล้อขณะที่สองมีอใหญ่เคลื่อนมากุมเอวของฉัน แล้วยกรางของฉันจนลอยขึ้นไปนั่งคร่อมลงบนคอของเขาอย่างสบายๆ
“เปล๊า” ฉันจะไม่ให้แซครู้ว่าฉันเกร็งแค่ไหน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเรื่องจะบานปลาย และเขาคงหัวเราะเยาะฉันด้วย “ก็แค่ขี่คอเอง”
ฉันก็เลยนั่งอยู่บนคอของแซค เนื้อตัวเราสัมผัสกันมานานและมากเกินไปแล้ว ยิ่งกว่านั้นมือแซคยังจับต้นขาฉันไว้มั่นเพื่อไม่ให้ฉันหงายหลังร่วงลงไปด้วย
“อ๊ะ?” ฉันร้องเมื่อปลายนิ้วของแซคขยุ้มต้นขาของฉัน
“ระวังตก” เขาบอกนิ่งๆ
“อะ...อื้ม ฉันไม่โง่ตกลงไปหรอกน่า”
...ฉันรู้สึกแปลก...
 ถึงฉันจะใส่บิกินี่แข่งวอลเล่ย์กับเขามาก่อนหลายวัน เราตบไหล่กัน ผลักกัน ล็อคคอกัน และฉุดกระชากลากถูกกันก็บ่อย แต่เพราะเป็นกีฬาฉันกับเขาก็เลยไม่รู้สึกแปลกอะไร แต่พอถูกชวนมาถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ ฉันกลับไม่รู้สึกเหมือนการเล่นวอลเล่ย์บอลด้วยกันเลยสักนิดเดียว
แล้วก็ถึงเวลาที่แซคเอื้อมสองแขนมาคว้าเอวของฉันเพื่อยกตัวฉันลงมาจากคอของเขา และโดยไม่ต้องวางฉันที่พื้นก่อนเขาก็เปลี่ยนท่าฉันให้กลายเป็นท่านอน และแขนแข็งแรงของแซคช้อนร่างฉันไว้อย่างสบายๆ
“วิคกี้นี่น่ารักนะ ตัวอุ่นกำลังดีด้วย” แซคพูดกับฉัน
“ไม่ต้องวิจารณ์เลยนะ!” ฉันดุเขา หวังไม่ให้เข้าเคลิ้มและคิดเลยเถิด
“ฉันแค่คิดว่ามันดีที่เธอไม่ได้ตัวร้อนเป็นไฟเหมือนวันนั้น รู้ไหมวันที่เธอเป็นไข้ฉันตกใจแค่ไหน”
“ฉันตกใจกว่านายอีกจะบอกให้! ”  ฉันยังว่าเขา แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพูดของเขาอบอุ่นและอ่อนโยน สายตาของเขาที่มองฉันอย่างห่วงใยก็เช่นกัน ดวงตางดงามของเพื่อนคนนี้ราวกับมองล้วงลึกเข้ามาในดวงตาของฉันมากกว่านั้น กล้ามเนื้อแข็งแรงของเขายังสัมผัสแนบกับผิวของฉัน และฉันสัมผัสได้ว่าเขาหายใจสะดุด
ฉันภาวนาในใจให้แซคไม่ชอบฉัน ฉันเป็นฝ่ายผิดเองที่รับงานถ่ายแบบนี้ไว้ แต่เราก็เริ่มมาไกลเกินกว่าจะเลิกกลางคันได้
 “ช็อตสุดท้ายแล้วค่ะ” ฉันโล่งใจเมื่อได้ยินเสียงทีมงานบอก ถึงจะแอบกลัวเมื่อคิดว่าฉากสุดท้ายอาจเป็นฉากที่ยากกว่าการโพสต์ที่ผ่านมา
“วิคกี้นอนลง แซคอยู่ข้างบนนะ”
ท่านี้ทำให้เหมือนแซคนอนคร่อมอยู่เหนือร่างของฉัน
“แซคจับวิคกี้ไว้ แล้วก้มลงมาค่ะ ชิดอีกๆ“
แซคก้มลงมาแล้ว เขาเคลื่อนเข้ามาชิดฉันมากฉันก็เลยยันมือต้านกับแผ่นอกเขาเพื่อดันลำตัวช่วงบนของเขาออกห่างจากเขาโดยอัตโนมัติ แล้วแซคก็โน้มใบหน้าลงมาอีกจนหน้าผากของเราเกือบจะชนกัน
 “ทำเหมือนจะจูบกันสิคะ”
ในที่สุดสิ่งที่ฉันหวาดกลัวอยู่ก็เป็นจริง
“อย่าหลับตาปี๋สิวิคกี้ ฮะๆๆ” พี่ๆ ตากล้องหัวเราะ “ไม่ได้ให้จูบจริงหรอกน่า แค่เอาหน้ามาชิดๆ กันเฉยๆ “
พวกเราชิดเข้ามา...ใบหน้าชิดใบหน้า และชิดเข้าไปอีก
 “ชิดๆ เลยนะ”
ตอนนี้ริมฝีปากของฉันอยู่ห่างจากริมฝีปากของแซคไม่ถึงหนึ่งนิ้วแล้ว “แซค นายอย่าคิดมากนะ นี่มันแค่งาน”
“ชิดเข้าไปอีก”
กึก การเคลื่อนไหวหยุดแล้ว ริมฝีปากของเราอยู่ชิดกันไม่ถึงนิ้ว
ฉันมั่นใจว่าการถ่ายรูปสุดท้ายคงจะจบลงเมื่อได้ยินเสียงรัวชัตเตอร์และเสียงชมจากพี่ๆ ไม่หยุดปาก ทว่าร่างสูงของแซคที่แนบกับร่างฉันอยู่ก็ยังร้อนจัด
ฉันไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ ฉันรู้สึกเหมือนผ่านไปนานเป็นชั่วโมงหรืออาจจะมากกว่า แขนของแซค...มือของแซค...ทั้งร่างของเขายังสัมผัสแนบกับฉันแม้แต่ขณะที่พี่ๆ ร้องขึ้น
“เสร็จแล้ว! เยี่ยมไปเลย! ไปก่อนล่ะ!!
แล้วทีมงานก็วิ่งตึกๆๆ สลายตัวไป เหลือไว้แต่ฝุ่นทราย ทันใดนั้น...
สุดท้ายสิ่งที่ฉันระแวงอยู่ก็เกิดขึ้นจนได้
แซคไม่ได้คลายมือจากฉัน ร่างของเขาไม่ได้ผละออกไป แต่แซคจูบฉัน...จูบอย่างแนบแน่นและอ่อนหวาน เขาทาบทับริมฝีปากร้อนราวกับแสงแดดริมชายหาดลงบนริมฝีปากของฉัน...ริมฝีปากที่ไม่เคยถูกใครจูบมาก่อนเลย
เฟิร์สคิสของฉันถูกช่วงชิงไป...
“แซค...นาย...”

บันทึกพิเศษ
-แซค แบรนดอน-
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงตัวบางๆ อย่างวิคกี้จะหัวใจแกร่งขนาดนี้ ผมก็ไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นๆ ที่มาเชียร์การแข่งขันที่ไม่อยากจะละสายตาไปจากวิคกี้เลย แต่ถึงเธอจะดูสวยน่ารักเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ เธอกลับมีมือตบที่หนัก เรี่ยวแรงและพลังใจก็มากเสียจนผู้ชายอย่างผมยังต้องยกนิ้วให้
ผมอดไม่ได้ที่จะมองดูวิคกี้วิ่งไปวิ่งมา รับบอลและแข่งอย่างไม่รู้เหนื่อย แต่ผมเชื่อนะว่าไม่ใช่เพราะเธอแข็งแรงกว่าคนอื่น  แต่หัวใจที่เข้มแข็งและจริงจังของเธอต่างหากที่ทำให้เธอยืนหยัดอยู่ได้ ถึงเธอจะถูกบอลอัดใส่หลายครั้ง และถูกผู้ชายที่เชียร์เป่าปากใส่ตามธรรมดาของผู้หญิงสวยแบบนั้นก็เหอะ
ผมสิที่ยอมแพ้ ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นเพื่อนอย่างเธอต้องแข่งขันดุเดือดอีกต่อไป และผมก็ไม่เสียใจเลยที่ผมวิ่งเข้าไปรวบตัวเธอและหยุดเธอไว้ นั่นอาจจะเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดเธอจากการทำร้ายตัวเองขนาดนั้นได้
แล้วผมก็ได้พบว่าเธอเป็นผู้หญิงธรรมดาอย่างที่ผมเข้าใจจริงๆ เธอตัวเบามาก แล้วก็ดูไม่เหลือเรี่ยวแรงอะไรเลยตอนที่ผมช้อนตัวเธอขึ้นและพาเธอเดินออกไป เธอคงจะหมดสติไปแล้ว ที่จริงร่างกายของเธอบอบบางเกินกว่าจะรับหัวใจที่แกร่งเกินไปของเธอ ผมคิดแบบนั้น
ทีละนิด ผมรู้สึกว่าหัวใจผมอบอุ่นขึ้นเมื่ออยู่ข้างวิคกี้ และมันก็กลายเป็นความร้อนเหมือนไฟเมื่อเราถ่ายแบบชุดว่ายน้ำด้วยกัน การได้กอดเธอ ได้อยู่ใกล้ๆ เธอ...น่าแปลกที่มันกลายเป็นการเติมเต็มความต้องการที่อยู่ลึกๆ ในตัวผม ซึ่งผมไม่เคยคิดว่ามีมันอยู่ แต่มันก็ถูกปลุกขึ้นมา
แต่ผมรู้ว่าวิคกี้ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับผม ไม่อย่างนั้นตอนที่ผมนวดแขนนวดขาให้เธอ เธอจะเผลอหลับไปแบบนั้นได้อย่างไร แต่ผมก็รู้นะว่าเพราะอะไร เพราะเธอแอบชอบแคเมรอนอย่างไรล่ะ
แล้วตอนที่เราอยู่ใกล้กันมากๆ ผมก็เผลอตัวเผลอใจจนได้
ผมจูบเธอ ให้ตายสิ ทั้งที่เราเป็นแค่ เพื่อน และผมก็อยากให้เราเป็นเพื่อนกันไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นไปได้ แต่ผมไม่เสียใจสักนิดที่พลาดไปแบบนั้น ในเมื่อมันเกิดจากความรู้สึกดีมากๆ ที่มีให้เธอ และที่สำคัญผมไม่เคยเป็นผู้ชายที่ชอบฉวยโอกาส  หวังว่าเธอคงเข้าใจฉันนะวิคกี้
 ขอโทษทีนะเพื่อน

วิทยาลัยอาร์เธอร์
-วิคกี้ วัตสัน-
“เฮ้ วิคกี้ ไม่ไปกินสลัดออร์แกนิคกันอีกเหรอ” แซคทักฉันหลังเลิกเรียน เรากลับจากอเมริกาได้สองวันแล้ว
“สลัด? ” ฉันเพิ่งนึกได้ว่าเรามีนัดกินสลัดกัน แต่พอเกิดเรื่องหลังจากถ่ายแบบเสร็จวันนั้นฉันก็เริ่มหลบหน้าแซคเล็กน้อย
ฉันคิดเสมอว่าคนหล่อและแสนดีอย่างแซคสูงส่งเกินไปสำหรับฉัน ฉันคิดว่าเขาน่าจะได้เดทกับผู้หญิงที่ดีกว่าฉันหลายสิบเท่า
“ไปกินวันนี้เลยไหม” แซคถามอีก
“ก็...”
“ฉันเลี้ยงนะ ถือเป็นการขอบคุณ”
“โอเค”

“ซีซ่าร์สลัด!? ” แซคตกตะลึงเมื่อสลัดชามโตราวกับภูเขาที่ฉันสั่งถูกเสริ์ฟลงตรงหน้า
ฉันยิ้มร้าย ย้อนนึกถึงบทความในนิตยสารที่แนะว่าให้เลี่ยงซีซ่าสลัดเป็นสิ่งแรกในการออกเดต  เพราะผักใบใหญ่กับน้ำสลัดข้นๆ ของมันเลื่องชื่อที่สุดในการทำให้คนกินต้องอ้าปากกว้างจนน่าเกลียด แถมใบหน้าก็จะเลอะเทอะไปด้วยน้ำสลัดจนหมดความงาม เพราะฉะนั้นสลัดจากนี้ถึงได้เหมาะมากกับฉันในเวลานี้ เพราะหลังจากที่ฉันกินสลัดซีซ่าร์ให้แซคดูเขาคงจะผวาและเลิกชอบฉันตลอดไป!
วันนี้แซคกินผักได้มากขึ้นอย่างน่าพอใจโดยไม่ต้องเคี่ยวเข็ญ ดูราวกับเขาอยากจะเอาใจฉัน ส่วนฉันก็ยัดสลัดคำใหญ่เข้าปากไม่ยั้งโดยที่แซคมองนิ่งๆ ไม่ว่าอะไร แต่ฉันรู้ เขากำลังตกใจที่ฉันกินมูมมามได้ขนาดนี้ และเขากำลังเริ่มหมดความสนใจในตัวฉัน
เมื่อกินอิ่มกันแล้วแซคก็หัวเราะคิก
“หัวเราะอะไรของนาย! ” ฉันแหวใส่
“ก็หน้าเธอน่ะ เลอะไปหมดแล้ว” เขาชี้
ฉันก็เลยเช็ดถูหน้ายกใหญ่
“ตรงนั้นด้วย ซ้าย ขวา ซ้าย” เขาบอกเหมือนพากย์มวยไม่มีผิด!
“บอกว่าซ้ายไง!” เขาจิ๊ปากอย่างทนรำคาญต่อไปไม่ได้ ก่อนจะโน้มตัวข้ามโต๊ะมา  “มานี่ ฉันเช็ดให้ เปื้อนไปถึงหัวแล้ว หลับตาสิ!
ฉันก็เลยหลับตา และทั้งที่ฉันน่าจะรู้ว่าสิ่งนี้อาจเกิดขึ้น...
ปากอุ่นจัดของแซคทาบลงมาที่เรียวปากของฉันอย่างแนบแน่นและอ่อนหวาน เขาเช็ดน้ำสลัดให้ฉันด้วยวิธีที่แสนจะชิดใกล้ และฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขาไปเรียนวิธีเช็ดน้ำสลัดแบบนี้มาจากไหน
ฉันถูกแซคจูบอีกแล้ว!



หลับตาลงแล้วติดปีกสีดำบินไปในความมืดอันเป็นนิรันดร์
กับซีรี่ส์ Vampire and I เทพนิยายรักดาร์คโรแมนติก
อ่านสิ
...แล้วบางทีคืนนี้คุณอาจได้พบแวมไพร์... 





-  D a y d r e a m  -





Vampire and I : ซากุระในสายฝน
Daydream
www.mebmarket.com
ยินดีต้อนรับสู่ความมืดที่แสนงดงามและน่าหลงใหล กับนิยายแฟนตาซีรักแนวดาร์คและโรแมนติกที่จะทำให้คุณหลงใหลแวมไพร์…ตลอดไป......“นานะมองลำคอของไซโตะที่สะท้อนแสงหม่นจากหน้าต่าง...ร่างนั้นที่หล่อเหลาจนกลายเป็นความงดงามกำลังหลับใหล......ได้กลิ่นกายของไซโตะ เธอเคลื่อนใบหน้าใกล้เข้าไป…แต่แล้วเธอชะงัก ข่มตาหลับ ก่อนจะผละจากเขาและลุกกลับไปที่เตียงในความมืดและเงียบหลังจากเธอเดินกลับไป ไซโตะลืมตาขึ้น เมื่อครู่นานะมาที่นี่ เขารู้เพียงเมื่อครู่...เธออยู่ใกล้ๆ เขานี่เอง...” หากคุณชอบความมืด ความงดงาม และความลี้ลับ นิยายเล่มนี้คือนิยายสำหรับท่าน“ไซโตะลากตัวนานะกลับมาที่ห้องแล้ว เขาล็อคประตูทันที“ฉันยังออกล่าไม่เสร็จเลยนะ” เธอบอกอย่างเสียอารมณ์ “เปิดให้ฉันออกไป ฉันไม่ฆ่าใครเหมือนแวมไพร์ใจร้ายตัวอื่นหรอกน่ะ”แต่ไซโตะคว้ามือของนานะที่กำลูกบิดประตูและกำลังจะแก้ล็อคออก ก่อนจะดึงมือนั้น ทำให้ทั้งตัวนานะลอยเข้าไปชนกับร่างของเขา“ไซโตะ ?” ร่างสูงรั้งมือของนานะแน่น อีกมือรั้งท้ายทอยใต้เส้นผมดำยาวเข้าไปที่ลำคอของเขาเอง “ดื่มเลือดฉันสิ”“!!?? นาย...”“ดื่มเลือดฉัน” ...ตึกตัก...นานะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นผิดจังหวะออกไปจากเดิม ไซโตะอยู่ใกล้เกินไป “ฉันไม่แคร์ว่าเธอรู้สึกยังไงกับฉัน ที่ฉันต้องการก็คือฉันไม่อยากให้เธอดื่มเลือดใครอีก” นิ้วเรียวยาวของไซโตะรั้งปกเสื้อของตัวเองลง “ดื่มเลือดของฉันคนเดียวเท่านั้น”


Vampire and I : รักนายแวมไพร์ของฉัน
Daydream
www.mebmarket.com
...ใครจะรู้ล่ะว่าโลกของแวมไพร์เป็นยังไง...?…แวมไพร์ เลือด ความงดงาม ชีวิตอมตะ เรื่องพวกนั้นน่ะเป็นตำนานและคำบอกเล่าเกี่ยวกับแวมไพร์ที่พวกเราได้ยินมานานแล้ว แต่มีฉันคนเดียวเท่านั้นที่รู้จักแวมไพร์อย่างแท้จริง เพราะเขาอยู่ต่อหน้าฉันนี่ไงล่ะ ชินจิ นักเรียนชายหล่อเหลาผู้เป็นที่หลงใหลของนักเรียนหญิงทั้งมัธยมคนนั้น เขาได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนมัธยมของฉันและกลายเป็นนักเรียนใหม่ในความดูแลของหัวหน้าห้องอย่างฉัน ไม่ว่าฉันจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม แต่เหนืออื่นใด ชินจิหลงรักเลือดของฉัน ทั้งรสชาติ สี กลิ่น อุณหภูมิของมัน และทุกอย่าง ชินจิแวมไพร์ผู้หล่อเหลาราวกับเจ้าชายแห่งความมืดได้เลือกฉัน และเมื่อเขายื่นข้อเสนอที่งดงาม...ข้อเสนอที่จะมอบชีวิตอันเป็นนิรันดร์เคียงข้างเขาตลอดไปให้กับฉัน ฉันจะทำยังไงดีนะ…แล้วชินจิก็ฝังเขี้ยวลงมาที่ต้นคอของฉัน ร่างของฉันกระตุกวูบ ฉันเจ็บ เขากำลังดื่มเลือดของฉัน แต่ครั้งนี้แปลกเหลือเกิน คมเขี้ยวของชินจิมอบความเจ็บยิ่งกว่าทุกครั้งและลึกล้ำยิ่งกว่าครั้งไหนๆ คงเพราะเขากำลังจะเปลี่ยนฉันให้เป็นแวมไพร์ มืดเหลือเกิน ราวกับแสงต่างๆ กำลังดับวูบไป ชินจิเคยบอกว่าโลกที่มนุษย์เห็นนั้นต่างจากจากโลกที่แวมไพร์เห็น มันมืดและหนาวเหน็บกว่าใช่ไหม ?…



Maple Rhapsody เพลงรักใบเมเปิ้ล
Daydream
www.mebmarket.com
คำเตือน!! ฉากแสดงความรักในเรื่องนี้ร้อนแรงกว่าใน Sweet Maple Rhapsody (Original) อาจทำอันตรายแก่เส้นเลือดในจมูกของท่านและทำให้เลือดกำเดาออกได้ ผู้อ่านต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป“สวยจัง” ฉันพึมพำ เหม่อมองกลีบสีน้ำเงินเข้มลึกล้ำที่แสนน่าหลงใหล บางสิ่งในวังวนที่ลึกลงไปในดอกไอริสทำให้ฉันคิดถึงแคเมรอน “สวยเหมือนทุกอย่างที่นี่ งดงามจนน่าประหลาดใจ...” ฉันจ้องมองแคมม์ “และเหมือนนาย...”แคมม์นิ่งมองฉันยาวนาน ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้เกินไปเมื่อฉันเอ่ยขอ “หลับตาสิ...”แล้วเขาหลับตาลงตามคำขอของฉัน ก่อนที่ฉันจะเขย่งเท้าขึ้นจนใบหน้าเกือบจะเคลื่อนสูงขึ้นไปอยู่ระดับเดียวกันกับเขา ฉันยิ้มบางก่อนจะกระซิบออกไป “แคเมรอน ฉันรักนาย...”แคมม์นิ่งไป ร่างสูงคล้ายหยุดหายใจเมื่อฉันเคลื่อนก้านดอกไอริสสูงขึ้นไป ให้ปลายกลีบนุ่มบางแตะแผ่วลงบนแก้มของเขาราวกับจุมพิตที่น่าหลงใหล...“เมื่อกี้...แทนจูบของฉันนะ...”......เจ้าชายนิทรา...ฉันละสายตาจากร่างที่ราวกับรูปปั้นสีขาวไร้ที่ติในแสงแดดอุ่นของยามบ่าย รีบเดินด้วยปลายเท้าไปที่กระเป๋าและหยิบเกมออกมา แล้วฉันก็รีบเดินกลับไปที่ประตู หยุดนิ่งอีกครั้งเมื่อผ่านแคมม์ ร่างนั้นกำลังขยับขึ้นลงอย่างเชื่องช้าตามจังหวะหายใจลึกยาวที่แสดงว่าเจ้าตัวกำลังหลับสนิท เขาหนุนหัวของตัวเองไว้บนแขนข้างหนึ่ง มือข้างซ้ายที่วางราบอยู่บนตัวมีผ้าพันแผลมัดไว้ และผ้าสีขาวนั้นปรากฏเลือดสีแดงซึมออกมาจางๆ เลือดที่ซึมอยู่ไม่ใช่ตำหนิ แต่ทำให้เขาดูแข็งแกร่งและงดงามขึ้นจนยากจะละสายตาไปได้ รู้ตัวอีกทีฉันก็โน้มตัวลงไปใกล้ๆ แคเมรอนแล้ว...ไม่ว่าจะเพราะอะไร รู้สึกราวกับตัวเองคือเจ้าชาย และแคเมรอนคือเจ้าหญิงนิทราแล้วฉันจูบแคเมรอน กดริมฝีปากอย่างแผ่วเบาลงบนริมฝีปากสีแดงเรื่อของเขา ความทรงจำเก่าๆ ที่งดงามราวกับภาพวาดในแสงแดดย้อนกลับมา แล้วเวลาที่เปราะบางนั้นก็ราวกับถูกขึงหยุดเอาไว้



Sweet Maple Rhapsody (Original)
Daydream
www.mebmarket.com
...แล้วมันก็เริ่มขึ้น... ริมฝีปากของนิค...งดงามและอุ่นจัด...เคลื่อนมาทาบทับริมฝีปากของฉัน...ฉันได้ยินเสียงหายใจลึกของเขา...ราวกับจะผนึกสัมผัสที่เขาได้จูบฉันไว้ให้นานแสนนาน หลายวินาทีผ่านไปเขาก็ถอนริมฝีปากออกอย่างเนิบช้าเพื่อที่จะจ้องตาฉันในระยะใกล้ขนาดปลายจมูกแตะกัน เขาไม่ได้แค่บอกรักฉันด้วยบทเพลง แต่ด้วยความเงียบและการรอคอยด้วย เวลานี้นิคกำลังอ่านและค้นลึกลงไปในหัวใจของฉัน ...ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะมั่นใจที่จะเคลื่อนมาสัมผัสกับริมฝีปากของฉันอีกครั้ง...และครั้งนี้อย่างแน่ใจและลังเลน้อยกว่าเดิม นิคจูบฉัน...จูบอย่างทะนุถนอมราวกับจูบของเจ้าชายที่ได้เลือกซินเดอเรลลาเป็นคนรัก ...และราวกับมันเป็นแค่การสัมผัสกันของกลีบดอกไม้...ฉันกำลังจูบกับนิกิต้างั้นเหรอ...? รู้สึกเหมือนมันเป็นแค่ความฝัน...และเสียงนุ่มแผ่วของเขาที่กำลังเอ่ยขอกับฉันก็เป็นเพียงแค่…...ความฝัน...?“ฉันชอบเธอ คบกับฉันนะ”