เช้าวันต่อมา
“ยูกะ ตรงคอเธอเป็นอะไรน่ะ ?” ฟูมิถามเมื่อเธอเห็นพลาสเตอร์ปิดแผลที่คอของฉัน
ทำเอาฉันแทบปล่อยปากกาเมจิกหล่นจากมือ
ฉันกำลังคัดลอกสูตรเคมีที่คุณครูสั่งไว้บนกระดานตามคำสั่ง
คุณครูสั่งให้ฉันลอกไว้ให้เพื่อนๆ จดตามก่อนที่จะถึงเวลาสอนน่ะ
แย่แล้ว
“เอ่อ...”
“โดนแมลงอะไรกัดเหรอ
? หรือแพ้ฝุ่นหรือเกสรอะไร ? ช่วงนี้กลับมาแพ้ง่ายอีกแล้วเหรอ ?”
เฮ้อ
โล่งไป ฉันจะได้ไม่ต้องโกหกอะไรฟูมิ ก็แค่เงียบไว้เท่านั้น
แต่ฟูมิกลับจ้องเหมือนจับผิดฉัน “แต่แผลแบบนั้นน่ะ ฉันหวังไว้นะว่าจะเป็นรอยเขี้ยวของแวมไพร์”
“แวมไพร์
!?” ฉันสะดุ้งโหยง
ร้อนตัวสุดๆ ขึ้นมาทันที
“พูดเล่นน่ะ”
เธอยิ้มซุกซน “ก็ใครจะไม่อยากถูกแวมไพร์กัดซักครั้งล่ะ เหมือนในเรื่อง Vampire Knight หรือ Diabolic
Lovers น่ะ โรแมนติกจะตายว่ามั้ย”
“ฉันไม่คิดแบบนั้นเลยซักนิด
นั่นมันจินตนาการวิปริตชัดๆ”
“เฮ้อ
ไม่โรแมนติกเลยนะยูกะ อ๊ะ”
ฟูมิเหมือนลืมฉันที่อยู่ตรงหน้าเมื่อชินจิเดินเข้ามาในห้อง
ชินจิมองมาที่ฉัน
ถึงเมื่อวานเขาจะว่าฉันว่าใจเสาะ แต่แวบหนึ่งฉันเห็นแววตาสีท้องฟ้าสนธยานั่นแฝงความห่วงใยเอาไว้
แล้วชินจิก็นั่งลงที่โต๊ะของตัวเองแล้วหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาอ่านเงียบๆ
ทุกครั้งที่เขาเดินเข้ามาและนั่งลง
เขาทำให้ผู้หญิงในห้องมองเขาอย่างลืมตัวได้เสมอเลยนะ
“ยูกะ
เธอกับชินจิชอบกันอยู่เหรอ ?”
“หา
!?”
ฉันสะดุ้งสุดตัวกับคำถามของฟูมิ
“ฉันเห็นเขามองเธออยู่เรื่อย”
ชินจิน่ะเหรอมองฉัน ??
“เปล่านะ เปล่าๆๆ ไม่เลย เธอเข้าใจผิดหมดแล้ว”
แต่ฟูมิกลับเอียงหัวมองฉันอย่างสงสัย
ฉันคงไม่มีวันอธิบายให้ฟูมิเข้าใจเรื่องระหว่างฉันกับชินจิได้หรอกนะ
สายสัมพันธ์ที่แสนจะแปลกประหลาดนั่นน่ะ มันแฝงไว้ด้วยความกลัว ความเจ็บปวด
...ไม่ใช่แค่นั้น มันยังเป็นความสัมพันธ์ที่แสนจะเดียวดาย
บางทีฉันก็รู้สึกว่าชินจิอ้างว้างเหลือเกิน
“เธอไม่ได้คบเขาจริงนะ ?”
ฟูมิยังไม่คลายความระแวง
“ไม่เลย ล้านเปอร์เซ็นต์ !!”
“ไม่เลย ?”
“ไม่ !”
“ไม่ชอบเขาจริงนะ ?”
“ไม่” ฉันส่ายหน้าและยืนยันหนักแน่น
และนั่นก็ทำให้ฟูมิยิ้มกว้างจนฉันอดไม่ได้ที่จะถาม “ทำไมเหรอ ?”
“ก็ฉันดีใจไงล่ะ เพราะฉันน่ะ ฉัน...”
ฟูมิ ?
“ฉันชอบชินจิ” เธอบอกและหน้าแดง “ชอบมาก”
ฟูมิชอบชินจิงั้นเหรอ ? ฉันก็รู้อยู่แล้วนี่
แต่พอเธอพูดแบบนั้นทำไมนะถึงรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจขึ้นมา...?
ทำไมล่ะ ยูกะ ?
ฟูมิยิ้มสวยอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
และจริงสิ ทำไมฉันถึงเพิ่งสังเกตนะว่าช่วงนี้ฟูมิสวยจัง เธอดูสวยขึ้นทุกวัน แต่งตัวมากขึ้น
แต่งหน้ามากขึ้น คงกำลังมีความรักสินะ
แต่เธอชอบชินจิงั้นเหรอ ?
“ไม่ได้นะ !” ฉันร้อง
และเสียงของฉันดังจนเพื่อนทุกคนหันมามองที่หน้ากระดาน ชินจิก็เช่นกัน
ฉันกับฟูมิก็เลยต้องยิ้มแห้งๆ ให้เพื่อนๆ หลังจากนั้นพวกเขาถึงเลิกสนใจเรา
“เธอจะชอบชินจิไม่ได้” ฉันบอกฟูมิ
“ทำไมล่ะ”
“เอ่อ...ก็...เอ่อ...”
จะอธิบายยังไงดีนะ
‘เพราะเธอจะถูกกัดไงล่ะ เขาเป็นแวมไพร์’ จะให้พูดแบบนั้นได้ยังไง
ฟูมิยังมองฉันอย่างไม่เข้าใจ ดูเธอจะงอนฉันนิดๆ
ด้วย
“หรือที่จริงเธอหลอกฉัน
เธอชอบชินจิเหมือนกันใช่มั้ย ?”
“ม...ไม่ใช่นะ”
ฉันก็แค่ไม่อยากให้เพื่อนตกอยู่ในอันตราย
แค่ที่ฉันโดนอยู่มันก็เลวร้ายพอแล้ว ฉันไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อแวมไพร์ทั้งนั้น
“แล้วทำไมล่ะ ยูกะ”
“เธอจะทำอะไรก็ตามใจแล้วกัน”
สุดท้ายฉันก็เหนื่อยใจจนต้องเลี่ยงไปพูดแบบนั้นแทน และนั่นก็ทำให้ฟูมิยิ้มกว้างและกระโดดกอดฉัน
“งั้นก็ช่วยเป็นแม่สื่อให้ฉันด้วยล่ะ
เห็นเธอกับเขาสนิทกัน นะๆๆๆ”
แล้วเธอก็กอดฉันแน่นและหอมแก้มฉันท่ามกลางเสียงเพื่อนๆ ที่เริ่มรำคาญเราแล้ว
“บังกระดาน เขียนเสร็จแล้วก็หลบไปดิ”
“เธอสองคนเป็นเลสเบี้ยนรึไง ? ช่วยไปสวีทกันที่ห้องพักครูเลยไป๊”
“แหะๆๆๆ”
เฮ้อ...
ฟูมิ เธอคงไม่มีวันเข้าใจหรอก เรื่องของชินจิน่ะ
ฉันไม่มีวันบอกความจริงกับเธอได้
บางทีฉันน่าจะหลอกเธอว่าเขาเป็นเกย์หรือไม่ก็ฆาตกร เธอจะได้ตัดใจ แต่ก็นั่นล่ะ
ฉันไม่เคยโกหกใคร การโกหกน่ะอาจจะเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับฉันมันผิดบาปพอๆ
กับการฆ่าคนที่ตัวเองรักเลยล่ะ
งั้นก็ปล่อยให้ฟูมิฝันไปแบบนี้ก่อนก็แล้วกัน
ขอให้เธอโชคดีนะ ฟูมิ
วันนี้ชินจิเอาสมุดของเพื่อนๆ
ทุกคนไปส่งครูที่ห้องพักแทนฉันด้วย
“ตั้งแต่นี้ไป ฉันจะทำเอง” เขาบอกฉันแบบนั้น
“ทำไมล่ะ ?”
“ก็แค่กลัวเธอเพลียน่ะ” ชินจิตอบตรงๆ เขาไม่ได้หันมามองหน้าฉันขณะที่ฉันเดินตามเขาที่เดินถือสมุดไปห้องพักครูด้วยเพราะเกรงใจ
“เธอน่ะให้ฉันมาเยอะแล้ว”
“ชินจิ...”
“ฉันไม่ลืมหรอกนะ”
...ดวงตาที่งดงามและอ่อนโยนนั่นอีกแล้ว...
อยู่ๆ ฉันก็หัวใจเต้นผิดจังหวะขึ้นมาเพราะดวงตาของชินจิลากมาสบกับฉันอีกครั้ง
“เพราะเลือดของเธอน่ะไหลเวียนอยู่ในร่างฉันเต็มไปหมดเลยนะ
เมื่อวานฉันดื่มมากกว่าทุกทีด้วย”
ชินจิยังคงมองฉันนิ่งนาน
“ฉันชอบเลือดของเธอ ยูกะ”
ชอบ...
หัวใจเต้นแปลกๆ เมื่อเขาสบตาฉันและพูดคำนั้น
แต่เขาหมายถึงเลือดเท่านั้น
สำหรับแวมไพร์เขาคือปีศาจ และมนุษย์ก็เป็นเพียงสิ่งที่มีไว้เพื่อความอยู่รอดของเขา
เราถูกสร้างมาเพื่อให้อยู่ตรงข้ามกัน
ถึงอย่างนั้นก็เหอะ น้ำเสียงนั้นเจืออยู่ด้วยความห่วงใย
ทั้งที่เขาเป็นแวมไพร์ แวมไพร์ต้องห่วงใยอาหารของเขาหรือเปล่านะ ?
ฉันว่าไม่
หรือชินจิจะต่างออกไปจากแวมไพร์อื่น ?
เขาอาจจะเป็นแวมไพร์ที่ดีในขณะที่แวมไพร์อื่นๆ ในโลกน่ะโหดร้าย
ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกมืดนั้นเลย
ราวกับตัวเองเป็นแค่เด็กน้อยที่ไม่รู้อะไร
...โลกและความรู้สึกของแวมไพร์เป็นสิ่งที่ลึกลับเกินความเข้าใจ...
“เดินมากเดี๋ยวก็เวียนหัวหรอก” ชินจิบอกฉัน ริมฝีปากงดงามหยักเป็นรอยยิ้มบาง
“กลับไปห้องได้แล้ว”
เขาบอกดีๆ แต่ก็คล้ายคำสั่ง
คงเพราะกลัวฉันไม่สบายแล้วเขาจะไม่ได้ดื่มเลือดฉันละมั้ง
“ไม่งั้นฉันจะดื่มเลือดเธออีกตอนนี้เลยนะ”
และพอพูดแบบนั้น เขาก็ทำให้ฉันวิ่งไปจากเขาได้เหมือนวิ่งหนีผีเลยล่ะ
หลังเลิกเรียนวันนี้ชมรมว่ายน้ำมีนัดซ้อมล่ะ
ฉันอยู่ในชมรมว่ายน้ำมาตั้งแต่เรียนปีแรกแล้ว
และฉันก็คว้าเหรียญทองแดงให้โรงเรียนบ่อยๆ ด้วย
แต่ที่จริงฉันอยากได้เหรียญทองมากกว่า
กว่าพวกเราจะซ้อมเสร็จก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่มแล้ว
โรงเรียนร้างผู้คน และนักกีฬาว่ายน้ำทุกคนรีบกลับบ้าน
แต่ฉันที่กำลังจะขึ้นจากสระเป็นคนเกือบสุดท้ายกลับเห็นชินจิเข้า ร่างสูงที่ดูนิ่งราวกับเงานั้นยืนอยู่ไกลๆ
ในความมืด
“ซ้อมหนักแบบนี้จะดีเหรอ ?”
เขาถามเมื่อฉันว่ายน้ำเข้ามาเขาที่ริมสระ และเขาเองก็เดินเข้ามา
“กลัวฉันหน้ามืดเหรอ ? ไม่หรอกน่า”
“ฉันบอกให้พักเยอะๆ ไม่ใช่เหรอ ?
อะไรที่ฉันทำแทนได้ก็บอกฉัน ฉันจะทำให้” เขานั่งลงริมสระ “ถ้าเธอถึงกับเดินกลับบ้านไม่ไหว
ฉันอุ้มไปส่งยังได้เลย”
“ใจดีเกินไปรึเปล่า
นายนี่เป็นเสือร้ายในคราบลูกแกะจริงๆ”
ชินจินิ่งไป เขามองฉันที่อยู่ในน้ำจากขอบสระสูงเหนือขึ้นไป
“คืนนี้ฉันไปส่งนะ ค่ำแล้ว”
“ให้นายไปส่งน่ะอันตรายกว่าไปคนเดียวอีก”
“ก็ใช่”
เขาหัวเราะแผ่ว ดวงตาคมงดงามราวกับภาพวาดลากจากดวงตาของฉันลงไปที่ลำคอของฉัน แต่ฉันกำลังคิดอีกเรื่องหนึ่ง
“ชินจิ” ฉันเรียกเขา
“?”
“มีผู้หญิงคนนึงแอบชอบนายอยู่ล่ะ”
แต่เขากลับส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย
“ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงทั้งโรงเรียนที่คลั่งไคล้นายอยู่หรอกนะ
แต่ฉันหมายถึงคนคนเดียวเท่านั้น”
ฉันรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
รู้สึกกึ่งๆ ไม่สบายใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร “ฟูมิชอบนายอยู่ล่ะ”
“ฟูมิ ?” ชินจิทวนชื่อเพื่อนของฉัน “แล้วไง ?”
“คือฉันไม่รู้ว่ามนุษย์กับแวมไพร์เดทกันได้หรือเปล่า
?”
“ไม่ได้” เขาตอบในทันที
“อ้อ” ฉันเหมือนกึ่งๆ โล่งใจ ไม่รู้เพราะอะไร
อาจจะเพราะฉันกลัวฟูมิจะถูกกัดคอเหมือนฉันก็ได้...ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ
“แล้วทำไมเธอต้องทำหน้าเศร้าด้วยล่ะ ?” ชินจิถาม
“ฉัน ?” ฉันชี้จมูกตัวเอง “ฉันไม่ได้หน้าเศร้านะ”
“ยูกะ ฉันจะบอกอะไรให้ แวมไพร์ก็คือแวมไพร์
และมนุษย์ก็คือมนุษย์ คืออาหาร”
คำตอบนั่นชัดมากเลย มนุษย์เป็นแค่อาหาร
ทุกอย่างที่ผ่านมาระหว่างฉันกับชินจิเป็นแค่เรื่องอาหาร
“แต่เพราะฉันเป็นแวมไพร์ที่ใจดีกว่าแวมไพร์ตัวอื่นๆ
ที่กระหายเลือดและการฆ่า ฉันถึงไม่อยากอยู่ในสังคมแวมไพร์ และเพราะแบบนั้นฉันถึงออกมาอยู่ร่วมกับมนุษย์ไงล่ะ”
เจ็บที่หัวใจจัง ทำไมนะ ?
“แล้วฉันก็ชอบมากด้วย ตั้งแต่วันแรกที่ฉันมาที่นี่”
ชินจิจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาของฉัน และทำให้ฉันหายใจติดขัดขึ้นมา
“อาจจะเพราะฉันยังมีหัวใจแบบมนุษย์หลงเหลืออยู่ก็ได้
เพราะฉันเคยมีหัวใจแบบนั้นเมื่อนานมาแล้ว”
ดวงตาของชินจิแฝงไว้ด้วยความเศร้าเช่นกัน ราวกับเขาได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญและเป็นที่รักไป
“แวมไพร์ก็เข้าใจยากแบบนี้ล่ะ” แล้วชินจิก็หยักยิ้มให้ฉัน
และมันเป็นยิ้มที่เปลี่ยวเหงา “แต่ตอนนี้ฉันหิวแล้ว”
“...!?” ฉันเกร็งเมื่อมือและนิ้วเรียวสวยของชินจิเคลื่อนเข้ามารั้งที่ใบหน้าของฉัน
ทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้น เขากำลังจ้องมองลำคอของฉัน
“ชินจิ”
“ขอฉันนะ” เขาพูดอย่างอ่อนโยน “ขอเลือดของเธอให้ฉันอีกครั้ง”
คำขอของชินจิอ่อนหวานราวกับเสียงเล่าเรื่องเทพนิยายหรือนิทานชวนฝัน
ทว่าฉันก็ยังอดเกร็งไม่ได้
“ชินรึยัง ? ถ้าเธอไม่เกร็ง
คมเขี้ยวของฉันก็แทบจะไม่สร้างความเจ็บปวดอะไรเลย” คำพูดของชินจิทำให้ฉันผ่อนคลายความเกร็งลงได้บ้าง
“ลองดูไหมล่ะ ?” เขารั้งใบหน้าฉันให้สูงขึ้นอีก
ทำให้ฉันต้องยันร่างขึ้นจากบันใดใต้น้ำ เพื่อที่เขาที่อยู่บนขอบสระจะได้โน้มตัวลงมาดื่มเลือดของฉันได้
ฉึก...ก...
รีดเดอร์ที่สนใจ “Vampire and I : รักนายแวมไพร์ของฉัน”
ฉบับพ็อคเก็ตบุ๊คสามารถโอนเงินค่าหนังสือ 155 บาทพร้อมค่าจัดส่งทั่วประเทศ 30 บาท รวม
185 บาทมาได้ที่บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาบิ๊กซีหางดง 2
เลขที่บัญชี 406-387614-3 เอื้องอลิน จึงสกุลรุจิเรข
แล้วส่งหลักฐานการโอนพร้อมชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่งมาที่อินบ๊อกซ์ www.facebook.com/daydreamfiction
หรือ Line id: Ung-alin ขอบคุณค่ะ ^^