เวลาเย็นมาถึงแล้ว
ขอบฟ้าริมทะเลกว้างแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงอมทองราวกับเปลวไฟ และเมื่อมองจากสระน้ำของโรงแรมที่ตั้งอยู่ชิดหาดก็ทำให้หลงใหลจนยากจะถอนตัวได้
แล้วอยู่ๆ ระหว่างที่เราว่ายน้ำเล่นอยู่ในสระแอนก็ว่ายไปชนกับผู้ชายคนหนึ่งเข้า
“โอ๊ย” เธองอแงทันที
“ขอโทษจริงๆ ครับ ผมไม่เห็นคุณเลย
แย่จัง”
“ไม่เป็นไรค่ะ เอ่อ...” แอนนิ่งค้างด้วยความประหลาดใจเมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายที่ชนเธอ
ดูจากแก้มที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูเรื่อก็รู้ทันทีว่าเธอประหม่าสุดขีด
นั่นก็เพราะผู้ชายที่กำลังขอโทษเธอด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งเป็นผู้ชายร่างสูงที่หน้าตาดีทีเดียว
บางทีเขาอาจจะเป็นนายแบบก็ได้ และน่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือไม่ก็ลูกครึ่งเพราะเขาพูดภาษาอังกฤษและมีผิวที่ออกจะขาวสว่าง
“ผมชื่อไรอัน” ชายร่างสูงแนะนำตัว
ยิ้มกว้างที่สดใสมีเสน่ห์ของเขาทำให้แอนหายเจ็บและเลิกถูมือกับลูกโนๆ
บนหน้าผากทันที และฉันก็รู้อีกนั่นล่ะว่าทำไมแอนถึงไม่เจ็บทั้งที่ถูกชนแรงขนาดนี้
“ฉันชื่อแอนค่ะ แล้วนี่เพื่อนฉันชื่ออัยย์”
แอนแนะนำตัวเองและฉันที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ผมเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษครับ แต่โตที่อังกฤษและอยู่ที่นั่นมาตลอด
ช่วงนี้ว่างก็เลยมาเที่ยวเมืองไทยกับเพื่อน” เขาเล่าอย่างร่าเริงด้วยภาษาอังกฤษ “
รู้ไหมว่าผมมีเพื่อนคนไทยน้อยมาก ทำให้ผมรู้สึกอายที่พูดภาษาไทยไม่ได้ทั้งที่มีเชื้อไทย
บางทีถ้าผมมีเพื่อนคนไทยมากขึ้นผมอาจจะหัดภาษาไทยได้ แต่เฮ้อ...ไม่รู้จะมีใครอยากเป็นเพื่อนกับคนที่พูดภาษาไทยไม่ได้เรื่องอย่างผมบ้างไหม...”
เมื่อไรอันพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสารขนาดนี้แอนก็น้ำตาคลอและรีบปลอบใจเขาเหมือนเขากำลังจะตาย
เธอสอนภาษาไทยให้เขาด้วย ไม่นานแอนกับเพื่อนใหม่ก็คุยกันสนุกสนานถูกคอด้วยภาษาอังกฤษปนไทย
จากนั้นพวกเขาก็สนิทกันจนเริ่มสาดน้ำใส่คนตรงข้าม แล้วเมื่อน้ำกระเซ็นมาถูกฉัน ฉันก็สาดน้ำใส่พวกเขาบ้าง
ไปๆ มาๆ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแอนกับไรอันถึงมีเรื่องสนุกให้คุยกันได้ไม่หยุด
พักใหญ่หลังจากคุยราวกับเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาหลายปีไรอันก็พูดขึ้น แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนคำแทนตัวเองจาก
‘ผม’ มาเป็น ‘ฉัน’ แล้ว
“เธอไม่มีวันรู้หรอกว่าฉันอยากมีเพื่อนคนไทยมากแค่ไหน
แอนกับอัยย์คุยสนุกดีนะ ใจดีด้วย ฉันไม่ได้คุยกับใครสนุกๆ แบบนี้มานานแล้ว
แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้เราไปรวมแก๊งกันดีกว่าไหม? ”
“รวมแก๊งเหรอ? ” แอนประหลาดใจ
“ใช่ ไปเจอเพื่อนๆ ของฉัน ในทริปนี้พวกเราวางแผนทำกิจกรรมสนุกๆ
ไว้หลายอย่าง พวกเราเป็นกลุ่มที่เป็นกันเองมาก พวกเธอจะต้องชอบแน่ ไปด้วยกันนะ”
“โอเค ก็ได้ นี่เพราะนายชวนหรอกนะ”
แอนตอบตกลงทันที เธอมีนิสัยน่ารักกว่าฉันอยู่อย่างคือเข้ากับเพื่อนใหม่ง่าย เธอเริ่มสนิทกับไรอันขนาดที่ระหว่างทางเขาคุยว่าจะไปเที่ยวบ้านเธอ
และถ้าแอนกับฉันไปอังกฤษเขาจะเปิดบ้านเช่าว่างให้เราพักฟรี
ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่น่ารักและใจดีขนาดนี้
สักพักไรอันก็พาพวกเรามาถึงสระน้ำอีกฟาก
ริมน้ำสีเทอร์ควอยส์ที่กำลังเรืองแสงในความมืดราวกับอัญมณีนั้นกลุ่มเพื่อนของเขากำลังนั่งเล่นกันอยู่
และ…
เป็นไปไม่ได้น่า...
ถึงจะไม่อยากเชื่อแต่หนึ่งในเพื่อนของไรอันที่หันมาหาพวกเราก็ทำให้ฉันหุบยิ้มได้ในทันที
ฉันจำร่างสูงที่โดดเด่นนั้นได้ถึงจะเห็นแค่เสี้ยวข้าง ก็ฉันเพิ่งจะสบประสาทเขาทั้งด้วยคำพูดและสายตาไปเมื่อช่วงบ่ายนี่
แล้วฉันก็คงทำตัวไม่ถูกหากไรอันจะแนะนำฉันให้รู้จักกับคนที่เพิ่งมีเรื่องกัน
“เฮ้ อเล็กซ์”
ไรอันร้องเรียกเขาและเพื่อนคนอื่น “เฮ้ ทุกคน”
ดวงตาคมเข้มสีออบซิเดียนปรายมองมาเมื่อได้ยินเสียงของไรอัน
ฉันไม่อยากเจอเขาสักหน่อย ทำไมคนที่ทั้งใจดีและร่าเริงอย่างไรอันถึงมีเพื่อนที่เย่อหยิ่งและเย็นชาแบบนี้ได้นะ!?
“ฉันพาเพื่อนใหม่มาแนะนำ นี่แอน
นี่อัยย์” ไรอันแนะนำเราก่อนจะแนะนำอีกฝ่าย “แอน อัยย์ สองคนนี้คือเพื่อนของฉัน
อเล็กซ์กับเลอาห์”
ทันทีที่ไรอันแนะนำชื่อของฉัน ดวงตาสีออบซิเดียนดำสนิทก็ลากมาจับจ้องและราวกับตรึงล็อคร่างของฉัน
นิ่งแข็ง เยือกเย็น และขุ่นเคืองในความเงียบงัน
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาจำเรื่องเมื่อบ่ายนี้ได้ และเขาเกลียดฉัน
“ไฮ” เพื่อนๆ ของไรอันทักเรา มีแค่อเล็กซ์คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ทักทาย
เขาแค่ดูเหยียดหยามและรำคาญจนต้องลากสายตาเลยไปมองที่อื่นราวกับพวกเราเป็นแค่เงาหรือกรวดทราย
ไม่ผิดเลยที่ในวงการแฟชั่นลือกันว่าเขาทั้งหยิ่งและเย็นชา ถึงฉันจะผิดเองที่ดูถูกเขาก่อนแต่ก็ช่วยไม่ได้
แต่ว่าที่จริงคนไร้สาระอย่างฉันก็มีประโยชน์กับโลกนี้อยู่บ้างเหมือนกัน
เพราะฉันคอยช่วยทำให้พวกคนดังไม่หลงตัวเองจนเกินไป
เพราะฉะนั้นฉันจะเป็นเพื่อนกับนายแบบนางแบบไปทำไม?
ฉันได้แต่แอบคิดว่าจะปลีกตัวไปตอนนี้ได้ไหม ขณะนั้นเองเลอาห์ก็เอ่ยทักทายพวกเราด้วยรอยยิ้มสวยหวาน
“สวัสดี ยินดีที่ได้รู้จัก”
เอ๋...? แปลกทีเดียว เลอาห์ไม่ได้หยิ่งใส่พวกเราอย่างที่ฉันระแวงไว้...บางทีอาจมีอเล็กซ์คนเดียวที่นิสัยแย่ก็ได้
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ” ฉันกับแอนรีบตอบ
อา...เมื่อได้เห็นตัวจริงใกล้ๆ
ฉันก็เข้าใจทันทีว่าทำไมเลอาห์ถึงก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบระดับท็อปคลาสได้ในเวลาไม่นาน
ด้วยใบหน้าแบบลูกครึ่งที่โดดเด่นของเธอ รอยยิ้มที่มองแล้วราวกับตกอยู่ในมนตรา
ไหนจะรูปร่างได้สัดส่วนและเอวที่เล็กบางอย่างไร้ที่ตินั่นอีก ที่สำคัญดูเธอจะเป็นกันเองและเข้ากับคนง่ายอย่างเหลือเชื่อ
ต่อมาไรอันก็แนะนำเพื่อนสองคนสุดท้ายที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
กันให้ฉันกับแอนรู้จัก “แล้วนี่ลูก้ากับโรเซีย เป็นแฟนกัน”
“ยินดีที่ได้รู้จัก” ฉันกับแอนพูดแทบจะพร้อมกัน
ต่างก็นิ่งอึ้งไป ฉันไม่เคยเห็นสองคนนี้ตามหน้าแมกกาซีนมาก่อน
ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่ดังแต่คงเพราะฉันอ่านแมกกาซีนน้อยไป
ดูก็รู้ว่าพวกเขาเป็นนายแบบและนางแบบชั้นนำ การมองพวกเขาทำให้ฉันเหมือนตกอยู่ในความฝัน
และแอนเองก็คงรู้สึกอย่างเดียวกัน เหมือนราวกับกำลังมองภาพวาดแสนสวยที่แสนล้ำค่า
และนั่นก็เพราะความงดงามอย่างไร้ที่ติของพวกเขา
“สวัสดีจ้ะอัยย์กับแอนน์”
โรเซียส่งยิ้มให้พวกเรา และรอยยิ้มของเธอก็งดงามราวกับไม่ใช่ความจริง ในขณะที่โรเซียดูไร้ที่ติราวกับเจ้าหญิงลูก้าก็ดูราวกับเจ้าชายฝาแฝดที่แสนจะสง่างามของเธอ
อาจจริงอย่างที่ใครบางคนกล่าวไว้ว่าคนที่เป็นเนื้อคู่กันจะหน้าตาเหมือนกัน โรเซียมีดวงตาสีน้ำตาลเจือแดงราวกับท้องฟ้าในเวลาทไวไลท์
เส้นผมยาวหยักเป็นลอนหนาสีเดียวกัน ส่วนลูก้าเป็นผู้ชายหน้าสวยที่ดูหล่อเหลาสุดขีดอย่างไร้ข้อกังขา
รูปร่างไร้ที่ติ และหน้าตาก็คมคายยิ่งกว่าภาพวาดเสียอีก ที่สำคัญสองคนนี้ดูใจกว้างและน่าคบพอๆ
กับไรอันเลยทีเดียว
“ฉันอยากชวนอัยย์กับแอนไปเที่ยวกับเรา
พวกเราจะได้มีเพื่อนคนไทยเพิ่มขึ้น” ไรอันบอกเพื่อนๆ ของเขา เลอาห์
ลูก้าและโรเซียยิ้มร่าเริงเมื่อได้ยินข้อเสนอนั้น ผิดกันลิบลับกับอเล็กซ์ที่ยืนอยู่ติดๆ
กัน คนอันตรายคนนั้นไม่ได้ยิ้มง่ายเหมือนเพื่อนคนอื่นของเขาเลยสักนิด เจ้าของใบหน้าราวกับรูปสลักเวลานี้ดูมึนตึงและเย็นชาเมื่อเอ่ยถามไรอันอย่างไม่ไว้หน้า
“ไรอัน นายยังไม่ได้ถามฉันเลยว่าฉันอยากมีเพื่อนใหม่หรือเปล่า”
เขาหยาบคายกว่าที่ฉันคิดไว้ บางทีเขาอาจนิสัยแย่กว่าที่ฉันเคยได้ยินมาก็ได้
“อ้าว ทำไมพูดแบบนั้นล่ะอเล็กซ์” ไรอันใบหน้าซีดเผือดลงเมื่อเห็นสายตาดุดันของเพื่อนสนิท
“โทษที ฉันไม่นึกว่านายจะหงุดหงิด ก็เห็นทุกทีนายออกจะตามใจฉันตลอด
ไม่นึกว่าเรื่องแค่นี้...”
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณจะไม่พอใจ
พวกเราผิดเองที่เดินตามไรอันมา” แอนรีบช่วยไรอันแก้ตัว ดูเดือดร้อนสุดขีดทีเดียวที่ทำให้อเล็กซ์อารมณ์เสีย
“ถ้างั้นไม่เป็นไรค่ะ ขอให้พวกคุณสนุกกันมากๆ ก็แล้วกัน พวกเราไปก่อนนะคะ”
แต่แล้วทันทีที่แอนลากมือฉันเพื่อวิ่งออกไปจากที่นั่นอเล็กซ์ก็พูดขึ้น
“เดี๋ยวสิครับ กับคุณผมไม่มีปัญหาหรือรังเกียจอะไร”
แอนชะงักฝีเท้าด้วยความประหลาดใจ
ก่อนจะปรากฏสีแดงจัดบนใบหน้าและแผ่ไปทั่วทั้งตัวเธอเมื่ออเล็กซ์หยักยิ้มให้ และให้ตายสิ
ฉันไม่ชอบเลยที่ยิ้มของเขามีเสน่ห์อย่างร้ายกาจจนเพื่อนของฉันแทบจะละลาย
“ผมแค่อยากให้ไรอันถามผมก่อนทุกเรื่องเท่านั้น เขารู้ดีว่าผมไม่ใช่คนที่เข้ากับใครง่ายๆ”
แล้วอเล็กซ์ก็กราดมองไรอันด้วยสายตานิ่งแข็งที่ทำให้คนถูกมองได้แต่ยิ้มแห้งๆ “นายเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม?
”
“โอเคๆ ฉันผิดไปแล้ว โทษที”
เห็นได้ชัดเจนว่าอเล็กซ์มีบารมีพอจะเรียกตัวเองว่าหัวหน้าแก๊งหรือลูกพี่ของไรอันได้
ว่าแต่เขาพูดว่า ‘กับคุณ’ อย่างนั้นเหรอ? โอเค ฉันอาจจะคิดมากไปเอง
แต่ฉันรู้สึกเหมือนอเล็กซ์ตั้งใจชวนแต่แอน เพราะเขาไม่ได้บอกว่า ‘กับพวกคุณ’ จริงไหม?
บางทีเขาอาจจะหมายถึงให้แอนเข้าแก๊งและให้ฉันวิ่งกลับห้องไปก็ได้
แต่ฉันไม่ได้โทษอเล็กซ์เลย อีกอย่างฉันก็ไม่ได้อยากมายืนอยู่ตรงนี้ให้เขารำคาญตาเลย
สาบานได้
“นั่งสิ” อเล็กซ์ลุกขึ้นและดึงเก้าอี้มาเพิ่มข้างๆ
เขาสองตัว คำเชิญของเขาทำให้แอนที่หน้าแดงอยู่แล้วหน้าแดงขึ้นไปอีก
เธอดูน่าหวาดเสียวเหมือนลูกโป่งสีแดงแปร๊ดที่พร้อมจะแตกโพละเอาง่ายๆ อีกพักใหญ่กว่าเธอจะหายเขินอเล็กซ์และกล้าจ่อมตัวลงบนเก้าอี้
“นั่งสิอัยย์”
ไรอันชวนฉันเมื่อเห็นฉันยืนเก้ๆ กังๆ แถมยังทำตัวเหมือนจะหนีกลับห้องด้วยซ้ำ
“ฉันอยากจะกลับไปห้องก่อนน่ะ”
ฉันบอกไรอัน คิดว่าคงไม่สนุกแน่ที่จะมีเพื่อนใหม่เป็นอเล็กซ์ แวนครอฟ
“ไม่เอาน่าอัยย์ มาถึงนี่แล้วอยู่ๆ
จะรีบกลับทำไม? ” ไรอันไม่ยอม
“ฉัน...”
“ปล่อยเธอกลับห้องไปเถอะถ้าหยิ่งขนาดนั้น”
อเล็กซ์ขัดขึ้นด้วยคำพูดที่ทำให้ฉันเจ็บจี๊ดขึ้นมา ทำให้เพื่อนๆ
หันไปตำหนิอเล็กซ์ที่ว่าฉัน
“ฉันไม่ได้หยิ่งนะ” ฉันรีบแก้ตัว
“ฉันแค่...”
“ถือตัว” อเล็กซ์บอก
“เปล่า ฉันแค่...”
เกลียดคนหยิ่ง...ฉันกำลังจะบอกแบบนั้น แต่คำแก้ตัวของฉันกลับเลือนหายไปเมื่อสายตาสงสัยของคนอื่นๆ
จ้องมองมา
...เหมือนคำว่าหยิ่งกำลังย้อนกลับมาที่ตัวฉัน
และทุกคนกำลังรอดูว่าฉันเป็นคนแบบนั้นจริงไหมถึงได้ไม่ยอมอยู่ที่นี่... แต่ฉันไม่ใช่คนหยิ่งสักหน่อย
ฉันเกลียดคนแบบนั้นจะตาย เพราะฉะนั้นฉันจะพิสูจน์ให้ดูก็ได้!
ฟึ่บ ฉันนั่งลง แต่เพราะอเล็กซ์ลากเก้าอี้มาต่อข้างๆ
ตัวเขาในขณะที่แอนเลือกนั่งเก้าอี้ตัวที่ติดกับไรอัน ฉันก็เลยต้องนั่งข้างอเล็กซ์ บางอย่างทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังจะโชคร้าย
“ชื่ออัยย์? ” อยู่ๆ อเล็กซ์ก็ถามฉันด้วยเสียงสั้นห้วน ดวงตาคมเข้มไม่ได้มองฉันทว่ามองตรงไปยังกลุ่มเพื่อนที่กำลังคุยกันราวกับไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าฉัน
“ใช่” ฉันตอบโดยไม่มองเขาเช่นกัน
สายตาจับอยู่ที่กลุ่มเพื่อนของ
อเล็กซ์ที่กำลังพูดคุยกัน
“มาจากไหน? ”
“แถวๆ นี้” ในเมื่อเขาถามห้วนฉันก็ตอบห้วนได้
แต่ใบหน้าของอเล็กซ์ไม่ปรากฏรอยยิ้มเลย ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกไต่สวนความผิดที่ได้สบประมาทเขาลงไป
“พักกี่คืน? ” เขาถามอีก
“เจ็ด”
“กับใคร? ”
“กับแอน”
เขานิ่งไป
“มากันสองคน” ฉันบอกเพิ่ม
เขาเงียบไปอีกก่อนจะพูดสั้นๆ “โอเค”
ฉันกระพริบตาปริบๆ กับคำพูดที่ฟังสั้นจนไม่รู้เรื่องของอเล็กซ์
คำว่า “โอเค” ของเขาหมายถึงอะไร? เขาหมายถึงฉันมีฐานะพอจะอยู่ในระยะสิบเมตรข้างเขาได้โดยเขาไม่ต้องปัดฝุ่นบนเสื้อของตัวเองเหรอ?
ใครจะรู้ แต่ก็ช่างเหอะ ฉันกับเขาคงไม่มีทางคุยกันได้
และเขาก็ดูเหมือนจะต้องพยายามมากจนรู้สึกขัดใจที่ต้องลดตัวลงมาคุยกับคนอย่างฉัน
เขาถึงได้พูดจาห้วนสั้นแบบนั้น
แล้วอเล็กซ์ก็ไม่ได้พูดหรือถามอะไรฉันอีก
ฉันก็เหมือนกัน มีแต่เพื่อนๆ ตรงหน้าเท่านั้นที่พูดคุยกันอย่างสนุกสนานต่อไป
เวลาผ่านไปราวสิบนาที พอนั่งฟังอเล็กซ์และเพื่อนของเขาคุยกันจริงๆ
ฉันก็ต้องแปลกใจที่อเล็กซ์ไม่ได้เลวร้ายหรือเย็นชาอย่างที่ฉันคิดไว้
เขาออกจะมีเสน่ห์และใจดีกับเพื่อนด้วยซ้ำไป ท่าทางของอเล็กซ์ดูสบายๆ นอกจากนี้เขายังห่วงใยเพื่อนทุกคน
ติดอยู่นิดหนึ่งว่าเขาออกจะเงียบไปสักหน่อยเท่านั้น และฉันประหลาดใจที่เขาไม่ได้แสดงสีหน้าดุดันแบบที่ริมสระเมื่อบ่ายนี้ให้ฉันเห็นอีกเลย
จะว่าไปตอนนั้นฉันก็ทำตัวก้าวร้าวเกินไปเหมือนกัน
ฉันใจร้อนตัดสินโทษเขาไปก่อนเพราะเห็นว่าเขาเป็นนายแบบชื่อดัง ส่วนแอนตอนนี้เธอกำลังหัวเราะคิกคักกับเพื่อนใหม่ทุกคนยกเว้นอเล็กซ์เหมือนรู้จักกันมาหลายปียังไงยังงั้น
“พวกเราเป็นเพื่อนของอเล็กซ์ที่อังกฤษ
แต่เพราะนานๆ ครั้งอเล็กซ์ถึงจะได้กลับมาเที่ยวเมืองไทยพวกเราก็เลยต้องฉวยโอกาสรีบตามมาเที่ยวด้วย”
โรเซียเล่าให้แอนฟังเมื่อถูกถามว่าทำไมเธอกับลูก้าถึงมาอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ได้
และอเล็กซ์ที่ฟังอยู่ก็ร่วมบทสนทนาด้วยการมองเรานิ่งๆ
พลางจิบเตกิล่าสีสวยด้วยท่าเอนหลังสบายๆ
เลอาห์มักอยู่เคียงข้างอเล็กซ์
เธอชอบเคลื่อนแขนเล็กบางไปโอบเหนือไหล่กว้างของเขา
หรือไม่ก็ขยี้เส้นผมสีดำสนิทของเขาราวกับสัมผัสเล่นกับเส้นไหม นานๆ
ครั้งเธอจะผละจากอเล็กซ์ไปที่สระเพื่อเล่นน้ำบ้าง
และเมื่ออยู่ในห้วงน้ำสีฟ้าเรืองแสงเธอก็ดูราวกับเจ้าหญิงเงือกที่แสนจะน่าหลงใหล
“คนติดตามเพิ่มขึ้นอีกแล้วนะอเล็กซ์”
อยู่ๆ ไรอันก็พูดขึ้นพลางยื่นโทรศัพท์ที่เปิดหน้าไอจีของอเล็กซ์ให้เจ้าตัวดู ก่อนจะถามต่อเมื่อเห็นว่า
อเล็กซ์ดูนิ่งเฉยกับยอดผู้ติดตามของตัวเอง
“ได้เช็คไอจีมั่งหรือเปล่านายน่ะ? ”
“เช็คบ้าง” อเล็กซ์ตอบสั้นๆ น้ำเสียงราวกับไม่สนใจความป๊อปปูล่าร์ของตัวเอง
“ชอบหรือเปล่า? ” ไรอันถามอีก
“ไม่รู้สิ”
“ไม่รู้? ”
“มันไม่สำคัญหรอก”
คำตอบของเพื่อนทำให้ไรอันงุนงง หากแต่อเล็กซ์ไม่ใส่ใจปฏิกิริยาประหลาดใจนั้นสักนิด
เขาปล่อยให้เพื่อนๆ ที่ยังตื่นเต้นกับไอจีของเขาส่งมือถือไปรอบๆ เพื่อแบ่งกันดู
เมื่อแอนดูเสร็จด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นจนแทบหัวใจวายมือถือที่ประดับด้วยรูปของอเล็กซ์บนหน้าจอก็ถูกส่งต่อมาถึงฉันบ้าง
ฉันเลื่อนดูภาพของอเล็กซ์ตามมารยาท
และถึงจะไม่อยากยอมรับเพราะไม่อยากทำให้เขาได้ใจ ทว่าแต่ละภาพของนายแบบอินเตอร์อย่างผู้ชายคนนี้ช่างดูไร้ที่ติจริงๆ
ใบหน้าของเขาคมสวยน่ามอง การโพสต์ท่าก็สมบูรณ์แบบ ทุกรูปล้วนแต่หล่อเหลาและลงตัวอย่างยากจะอธิบายหรือละสายตาไปได้
เส้นผมและคิ้วสีดำสนิทกับผิวที่ขาวจัดของเขาดูจะเป็นคู่ตรงข้ามที่ผสานกันอย่างลงตัว
เขาเป็นลูกครึ่งที่ถูกสร้างได้น่ามองที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่แล้วฉันก็สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่าง
ภาพในไอจีของอเล็กซ์ไม่ปรากฏรอยยิ้มเลยแม้แต่ภาพเดียว มีเพียงใบหน้าเรียบนิ่งที่ติดจะบึ้งตึง
ถึงฉันจะรู้ดีว่านายแบบส่วนใหญ่ต้องโพสต์ท่าด้วยสีหน้าจริงจังแบบนี้กันอยู่แล้วก็ยังอดสงสัยไม่ได้
นายแบบหล่อเหลาที่เพียบพร้อมไปทุกเรื่องอย่างเขามีความสุขบ้างไหม...?
แล้วไรอันก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“นายอ่านคอมเม้นต์ของนายบ้างหรือเปล่า นายมีผู้หญิงมาขอแต่งงานเป็นร้อยในโพสต์เดียวเลยนะ
ทำไมไม่ตอบไปบ้างล่ะ? “
ทว่าอเล็กซ์ทำราวกับไม่ได้ยิน
“ดูสิ นางแบบด้วยกันยังมาขอนายแต่งงานเลย
ถามจริงๆ เหอะ นายเคยอ่านคอมเม้นต์ของคนติดตามบ้างไหม? ”
อเล็กซ์ยังคงเฉยเมยหากแต่กลับเป็นเลอาห์ที่ร้อนใจ
เธอรีบดึงแขน
อเล็กซ์ไปกอดและอ้อนอย่างหงุดหงิด
“ไม่ต้องอ่านนะอเล็กซ์ บล็อคผู้หญิงพวกนั้นให้หมดเลย! ” หลังจากพูดอย่างขุ่นเคืองเธอก็หันไปหาเรื่องไรอันอย่างมาดร้าย
“ไรอัน! อย่าหาเรื่องให้ฉันโมโหนะ! ”
“กลัวแล้วจ้า ล้อเล่นเฉยๆ
ฉันรู้หรอกน่าว่าเธอหวงอเล็กซ์แค่ไหน”
ไรอันหัวเราะแห้งๆ
ก่อนจะดึงโทรศัพท์ไปจากมือของฉันเพื่อเอาไปดูต่อ
แล้วไรอันถามอีก “แล้วบทสัมภาษณ์ที่แฟนคลับโพสต์ลงมาให้อ่านเมื่อวานนี้ใช่ที่นายให้สัมภาษณ์จริงเหรอ
‘ยังไม่สนใจที่จะมีแฟน
แล้วก็ไม่พร้อมจะมีความรัก’ ปีก่อนนายก็ตอบแบบนี้ ปีนี้ก็ตอบเหมือนเดิมอีกแล้ว
ทำไมล่ะ? ”
ทว่าแทนที่จะตอบอเล็กซ์กลับลุกขึ้นยืนเหมือนเริ่มรำคาญ
“ฉันเข้าใจนายนะอเล็กซ์
แต่จะปิดกั้นตัวเองแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ เฮ้”
หากทว่าไรอันไม่มีโอกาสถามให้รู้เรื่องอีกต่อไปเพราะเวลานี้อเล็กซ์จุ่มร่างลงในสระและว่ายน้ำห่างออกไปแล้ว
ไม่พร้อมที่จะมีความรักอย่างนั้นหรือ...?
น่าแปลกที่ฉันเข้าใจคำตอบที่แสนแปลกนั้นได้ดีอย่างน่าประหลาดใจ...ความรู้สึกที่ไม่พร้อมจะมีความรักหรือถึงกับกลัวความรักไม่ว่าใครกี่คนจะบอกว่าเป็นสิ่งสวยงามแค่ไหน...
...ไม่ใช่มีแต่อเล็กซ์คนเดียวหรอกที่เป็นเช่นนั้น
เพราะแม้แต่ฉันเองก็เหมือนกัน ฉันไม่เคยเชื่อในความรักเลย...
“อย่าเพิ่งไปสิอเล็กซ์” ไรอันร้องไล่หลัง
อเล็กซ์อาจกลัวความรัก
และคงเพราะอย่างนี้เขาถึงได้เย็นชาราวกับน้ำแข็ง ปิดกั้นตัวเอง และเก็บซ่อนความรู้สึกแปลกแยกไว้ภายใต้ใบหน้าที่เรียบนิ่งราวกับไร้หัวใจ...
น่าเศร้าที่เขาเหมือนกับฉัน...
“กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิอเล็กซ์
เฮ้...”
ไม่นานเลอาห์ก็จุ่มร่างลงในน้ำและว่ายตามอเล็กซ์ไปบ้าง
ทำให้ที่ขอบสระน้ำเวลานี้เหลือแค่ฉัน แอน ไรอัน โรเซีย และลูก้า
แอนกับไรอันคุยกันถูกคอจนดูราวกับโลกนี้มีแค่เธอกับเขา โรเซียคงจะกลัวฉันเหงาก็เลยชวนฉันคุยอย่างเป็นกันเองบ้าง
และฉันก็พบว่าเธอเป็นผู้หญิงที่คุยสนุกมากทีเดียว
“เธอสวยจังเลยโรเซีย” ฉันชมโรเซียเมื่อเราคุยกันได้พักใหญ่
แค่เธอนั่งนิ่งๆ และยิ้มบางมาให้ก็ทำให้ฉันตกหลุมรักเธอหมดทั้งหัวใจแล้ว
“ขอบใจจ้ะ” โรเซียยิ้มงดงาม
เธอนั่งอยู่ชิดร่างของลูก้า และปลายนิ้วเรียวยาวของเขากำลังขยุ้มเส้นผมของเธอเล่นอย่างแผ่วเบา
“ฉันว่าเธอสองคนเป็นคู่รักที่ดูดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลย”
ฉันบอกจากความรู้สึกที่แท้จริงก่อนจะประหลาดใจกับคำพูดของตัวเอง เพราะทั้งที่ฉันคิดว่าตัวเองเกลียดนายแบบนางแบบแต่โรเซียและลูก้ากลับเปลี่ยนใจทำให้ฉันชอบพวกเขาได้ในเวลาแค่ไม่กี่นาที
“ฉันกับโรเซียโตมาด้วยกัน
ฉันเป็นพี่โรเซียสองปี” ลูก้าบอก
“จริงอยู่เรารู้จักกันมานาน
แต่เพิ่งไม่นานมานี้เองที่เราตัดสินใจคบกันอย่างจริงจัง” โรเซียพูดบ้างและจ้องมองลูก้าด้วยแววตาหวานซึ้ง
“ลูก้าน่ะมีหัวใจที่รักอิสระ เขาไม่เคยหยุดนิ่งที่ใคร ที่ผ่านมาเขาเดทกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเลย”
“ไม่เอาน่าโรเซีย” ลูก้าปรามคนรักด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ทว่าเธอยังเล่าต่อไปอย่างไม่ใส่ใจ
“แต่ฉันก็ยังรักและรอลูก้ามาตลอด ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
บางทีอาจเพราะฉันคิดว่าการที่เขาไม่มีวันรักผู้หญิงคนไหนหรือหยุดหัวใจไว้ที่ใครเป็นเรื่องที่ชวนค้นหาและน่าหลงใหล
อย่าหัวเราะฉันเลยนะ แต่ตลอดมาฉันคิดจริงๆ ว่าหากรั้งเขาไว้ข้างกายได้ก็คงจะท้าทายและน่าภูมิใจ
ฉันสัญญากับตัวเองไว้ว่าสักวันหนึ่งจะต้องทำให้ลูก้ารักให้ได้”
“ไม่เอาน่า จะเล่าเรื่องแย่ๆ
ที่ผ่านไปแล้วทำไม” ลูก้าปรามโรเซียอีก
ฝ่ามือใหญ่รั้งใบหน้างดงามมาชิดร่างก่อนจะฝังริมฝีปากงดงามลงบนเส้นผมนุ่มสวยของเธอ
“ก็ฉันเลิกแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันหยุดแล้ว และเธอเป็นคนสุดท้าย”
ฉันเขินแทนจนอดหน้าแดงไม่ได้เมื่อแขนงดงามของลูก้าเคลื่อนมาโอบกอดโรเซียเอาไว้
ฉันไม่เคยเห็นคู่รักคู่ไหนดูมีเสน่ห์ขนาดนี้มาก่อนเลย
“ถ้าไม่บอกฉันคงไม่มีทางเชื่อว่านายเป็นคนแบบนั้นนะลูก้า
แต่ถ้าฉันเป็นนายแล้วเจอกับโรเซียเข้า เสืออย่างฉันก็ต้องทิ้งเขี้ยวเล็บและยกหัวใจทั้งหมดให้เธอเหมือนกัน”
ฉันบอกอย่างมั่นใจ
“จริงหรือเปล่า
นายเป็นเหมือนที่อัยย์พูดไหมลูก้า...? ” โรเซียหันไปถามเจ้าชายของเธอ ทำให้ใบหน้าของเธอและเขาแทบจะอยู่ชิดกัน
และเมื่อทั้งสองสานสายตากันอย่างน่ารักและหวานซึ้งฉันก็อดไม่ที่จะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและกดชัดเตอร์
แชะ
|
|
|
|
|
|
|