จาก
Sweet
Maple Rhapsody (Original)
พวกเราชิดเข้ามา...ใบหน้าชิดใบหน้า
และชิดเข้าไปอีก…
คราวนี้ทีมงานให้เราทั้งคู่นั่งบนทราย
พี่ๆ บอกให้ฉันนั่งลงไปบนร่างของเขา หันหน้าเขาหาเขา และรั้งท้ายทอยของเขาไว้
แล้วพี่ๆ ก็สั่งให้ให้แซคซบหน้าลงบนไหล่ของฉัน
“อ้าว
กล้องเป็นไรไม่รู้ รอแป๊บนะ อย่าเพิ่งขยับไปไหนล่ะ” อยู่ๆ
พี่ตากล้องก็พูดขึ้นแล้วรีบวิ่งไปซ่อมกล้อมเสียไกล
ทีมงานคนอื่นก็เดินหายไปทำธุระหรือยืดเส้นยืดสายชั่วคราว
“อ้าว
เฮ้ ให้ค้างอยู่ท่านี้เนี่ยนะ ตลกแล้ว! ” ฉันแอบบ่น
“อย่าบ่นน่า”
“จะซ่อมนานไหมเนี่ย”
“เดี๋ยวก็มาแล้วมั้ง
นิ่งๆ เหอะ”
เสียงปรามของแซคดังอยู่ชิดหัวไหล่ของฉัน...ร่างของเขาแนบชิดเหมือนจะหลอมรวมกัน
โอย...
“ฉันรู้น่า”
แซคล็อคฉันไว้ราวกับจะไม่ให้ฉันผละไป...ราวกับไม่อยากให้ฉันขยับด้วยซ้ำไป
...ฉันอยากรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร...
“มาแล้วๆๆ”
พี่ๆ วิ่งกระหืดกระหอบกลับมา
แชะๆๆๆๆ
ฉันโล่งใจและถามพี่ๆ
“เสร็จแล้วใช่ไหมคะ”
“โอ๊ย
ยังหรอกค่ะ” พี่ๆ พูดเหมือนเราเพิ่งเริ่มถ่ายกันเท่านั้น
“คราวนี้ยืนน้องวิคกี้ขี่คอแซคค่ะ
“ขะ...ขี่คอ?!”
“ทำหน้าตกใจแบบนั้นกลัวฉันทำเธอหล่นหรือไง”
แซคล้อขณะที่สองมีอใหญ่เคลื่อนมากุมเอวของฉัน แล้วยกรางของฉันจนลอยขึ้นไปนั่งคร่อมลงบนคอของเขาอย่างสบายๆ
“เปล๊า”
ฉันจะไม่ให้แซครู้ว่าฉันเกร็งแค่ไหน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเรื่องจะบานปลาย
และเขาคงหัวเราะเยาะฉันด้วย “ก็แค่ขี่คอเอง”
ฉันก็เลยนั่งอยู่บนคอของแซค
เนื้อตัวเราสัมผัสกันมานานและมากเกินไปแล้ว ยิ่งกว่านั้นมือแซคยังจับต้นขาฉันไว้มั่นเพื่อไม่ให้ฉันหงายหลังร่วงลงไปด้วย
“อ๊ะ?”
ฉันร้องเมื่อปลายนิ้วของแซคขยุ้มต้นขาของฉัน
“ระวังตก”
เขาบอกนิ่งๆ
“อะ...อื้ม
ฉันไม่โง่ตกลงไปหรอกน่า”
...ฉันรู้สึกแปลก...
ถึงฉันจะใส่บิกินี่แข่งวอลเล่ย์กับเขามาก่อนหลายวัน
เราตบไหล่กัน ผลักกัน ล็อคคอกัน และฉุดกระชากลากถูกกันก็บ่อย
แต่เพราะเป็นกีฬาฉันกับเขาก็เลยไม่รู้สึกแปลกอะไร แต่พอถูกชวนมาถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ
ฉันกลับไม่รู้สึกเหมือนการเล่นวอลเล่ย์บอลด้วยกันเลยสักนิดเดียว
แล้วก็ถึงเวลาที่แซคเอื้อมสองแขนมาคว้าเอวของฉันเพื่อยกตัวฉันลงมาจากคอของเขา
และโดยไม่ต้องวางฉันที่พื้นก่อนเขาก็เปลี่ยนท่าฉันให้กลายเป็นท่านอน
และแขนแข็งแรงของแซคช้อนร่างฉันไว้อย่างสบายๆ
“วิคกี้นี่น่ารักนะ
ตัวอุ่นกำลังดีด้วย” แซคพูดกับฉัน
“ไม่ต้องวิจารณ์เลยนะ!” ฉันดุเขา หวังไม่ให้เข้าเคลิ้มและคิดเลยเถิด
“ฉันแค่คิดว่ามันดีที่เธอไม่ได้ตัวร้อนเป็นไฟเหมือนวันนั้น
รู้ไหมวันที่เธอเป็นไข้ฉันตกใจแค่ไหน”
“ฉันตกใจกว่านายอีกจะบอกให้! ” ฉันยังว่าเขา
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพูดของเขาอบอุ่นและอ่อนโยน
สายตาของเขาที่มองฉันอย่างห่วงใยก็เช่นกัน
ดวงตางดงามของเพื่อนคนนี้ราวกับมองล้วงลึกเข้ามาในดวงตาของฉันมากกว่านั้น
กล้ามเนื้อแข็งแรงของเขายังสัมผัสแนบกับผิวของฉัน และฉันสัมผัสได้ว่าเขาหายใจสะดุด
ฉันภาวนาในใจให้แซคไม่ชอบฉัน
ฉันเป็นฝ่ายผิดเองที่รับงานถ่ายแบบนี้ไว้
แต่เราก็เริ่มมาไกลเกินกว่าจะเลิกกลางคันได้
“ช็อตสุดท้ายแล้วค่ะ”
ฉันโล่งใจเมื่อได้ยินเสียงทีมงานบอก ถึงจะแอบกลัวเมื่อคิดว่าฉากสุดท้ายอาจเป็นฉากที่ยากกว่าการโพสต์ที่ผ่านมา
“วิคกี้นอนลง
แซคอยู่ข้างบนนะ”
ท่านี้ทำให้เหมือนแซคนอนคร่อมอยู่เหนือร่างของฉัน
“แซคจับวิคกี้ไว้
แล้วก้มลงมาค่ะ ชิดอีกๆ“
แซคก้มลงมาแล้ว
เขาเคลื่อนเข้ามาชิดฉันมากฉันก็เลยยันมือต้านกับแผ่นอกเขาเพื่อดันลำตัวช่วงบนของเขาออกห่างจากเขาโดยอัตโนมัติ
แล้วแซคก็โน้มใบหน้าลงมาอีกจนหน้าผากของเราเกือบจะชนกัน
“ทำเหมือนจะจูบกันสิคะ”
ในที่สุดสิ่งที่ฉันหวาดกลัวอยู่ก็เป็นจริง
“อย่าหลับตาปี๋สิวิคกี้
ฮะๆๆ” พี่ๆ ตากล้องหัวเราะ “ไม่ได้ให้จูบจริงหรอกน่า แค่เอาหน้ามาชิดๆ กันเฉยๆ “
พวกเราชิดเข้ามา...ใบหน้าชิดใบหน้า
และชิดเข้าไปอีก
“ชิดๆ เลยนะ”
ตอนนี้ริมฝีปากของฉันอยู่ห่างจากริมฝีปากของแซคไม่ถึงหนึ่งนิ้วแล้ว
“แซค นายอย่าคิดมากนะ นี่มันแค่งาน”
“ชิดเข้าไปอีก”
กึก
การเคลื่อนไหวหยุดแล้ว ริมฝีปากของเราอยู่ชิดกันไม่ถึงนิ้ว
ฉันมั่นใจว่าการถ่ายรูปสุดท้ายคงจะจบลงเมื่อได้ยินเสียงรัวชัตเตอร์และเสียงชมจากพี่ๆ
ไม่หยุดปาก ทว่าร่างสูงของแซคที่แนบกับร่างฉันอยู่ก็ยังร้อนจัด
ฉันไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่
ฉันรู้สึกเหมือนผ่านไปนานเป็นชั่วโมงหรืออาจจะมากกว่า
แขนของแซค...มือของแซค...ทั้งร่างของเขายังสัมผัสแนบกับฉันแม้แต่ขณะที่พี่ๆ
ร้องขึ้น
“เสร็จแล้ว! เยี่ยมไปเลย! ไปก่อนล่ะ!! ”
แล้วทีมงานก็วิ่งตึกๆๆ
สลายตัวไป เหลือไว้แต่ฝุ่นทราย ทันใดนั้น...
สุดท้ายสิ่งที่ฉันระแวงอยู่ก็เกิดขึ้นจนได้
แซคไม่ได้คลายมือจากฉัน
ร่างของเขาไม่ได้ผละออกไป แต่แซคจูบฉัน...จูบอย่างแนบแน่นและอ่อนหวาน เขาทาบทับริมฝีปากร้อนราวกับแสงแดดริมชายหาดลงบนริมฝีปากของฉัน...ริมฝีปากที่ไม่เคยถูกใครจูบมาก่อนเลย
เฟิร์สคิสของฉันถูกช่วงชิงไป...
“แซค...นาย...”
(จาก Sweet Maple Rhapsody
(Original))
|