แสงแดดเกือบบอกลาท้องฟ้าแล้วตอนที่ไซโตะตามมาถึงที่ที่นกพิราบร่อนลง
มันเป็นบ้านเล็กๆ หลังหนึ่ง ไกลออกมาจากตัวบ้านเขาเห็นนานะยืนนิ่งอยู่ใต้ต้นไม้และเหม่อมองประตูบ้านไกลๆ
เธอตกใจเมื่อเห็นนกพิราบบินมาเกาะหน้าประตู
“ไซโตะ !?”
เธอตกใจขึ้นอีกเมื่อเห็นว่าไซโตะอยู่ข้างๆ เธอแล้ว “นายส่งนกที่ฉันเตรียมไว้มางั้นเหรอ
!?”
“ถ้าไม่ทำคงไม่ได้เจอตัวเธอ”
“ฉัน...” เธอก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าสบตาไซโตะ “ฉันเป็นปีศาจร้าย
ฉันไม่คู่ควรเจอหน้านายอีก”
“แล้วไง จะจากไปเฉยๆ หรือทำตัวลับๆ ล่อๆ แอบไปเลี้ยงนกที่ระเบียงฉันถึงเมื่อไหร่”
“แต่...”
“ก็เคยบอกแล้วว่าถ้าไม่มีที่ไป จะอยู่กับฉันก็ได้
ฉันไม่ชอบพูดซ้ำหรอกนะ”
ควับ ! นานะรีบลากไซโตะไปหลบหลังต้นไม้
“ชู่ว ! มามิมาแล้ว !”
แล้วไซโตะก็ต้องแปลกใจ
เขาเห็นว่ามีคนที่หน้าตาเหมือนนานะทุกอย่างเดินเข้าไปที่บ้านหลังนั้น
นานะมีน้องสาวฝาแฝดงั้นเหรอ ? เธออุ้มนกพิราบที่เดินอยู่หน้าบ้านแล้วแกะโน้ตที่ขาของมันออกอ่าน
“พี่ !?” เธอมองไปรอบๆ
แล้วร้องเรียก กำโน๊ตในมือแน่น “พี่นานะ !!??”
แล้วเธอวิ่งไปดูรอบๆ บ้าน “พี่อยู่แถวนี้ใช่มั้ย พี่คะ !!”
มามิวิ่งมาทางนี้แล้ว นานะรีบพาไซโตะหลบเข้าไปในซอยข้างๆ
เธอปิดปากเขาแน่นจนแน่ใจว่ามามิวิ่งผ่านเขาและเธอไปแล้ว
เธอถึงได้รีบพาไซโตะวิ่งหนีออกไปให้ไกลจากตรงนั้น
“ฟิ้ว” นานะถอนใจ เอนหลังพิงกำแพงอย่างหมดแรง “นั่นล่ะมามิ
คนที่ฉันรักที่สุดคนเดียวในโลกนี้”
แล้วนานะก็เล่าว่า “เธอเป็นน้องสาวฝาแฝดของฉัน ถึงฉันจะเกิดก่อนเธอไม่กี่นาทีแต่ฉันก็เป็นพี่ของเธอเต็มตัว
เราไม่มีพ่อแม่อีกแล้ว ก็เหมือนนาย พวกเขาจากไปพร้อมกันในอุบัติเหตุ แต่เป็นทางถนน
รถของพวกเขาคว่ำที่หุบเหว เรามีกันแค่สองคน เราไม่เหมือนกันเลย มามิร่างเริง
ฉันเงียบและขี้อาย แต่เราก็รักกันที่สุด อาจจะเพราะเราเป็นฝาแฝดก็ได้เราเลยเหมือนมีหัวใจดวงเดียวกัน”
เธอนิ่งไป “ฉันรักมามิ อยากดูแลเธอให้ดีที่สุด แต่ก็ทำไม่ได้
ฉันเป็นพี่ที่เลวจริงๆ”
แล้วนานะพลิกตัวฟุบหน้ากับกำแพง ทุบมือลงบนพื้นผนังแข็งหยาบแรงๆ
”ตั้งแต่ฉันกลายเป็นแวมไพร์ เป็นปีศาจร้าย ฉันก็ไม่คู่ควรให้มามิเห็นหน้าอีกต่อไป”
ไซโตะนิ่งฟังเธอ นานะกำลังอ่อนไหว
เขาเดินเข้าไปหยุดชิดหลังบางที่คล้ายกลั้นสะอื้นอยู่เงียบๆ เคลื่อนมือไปสัมผัสกำปั้นที่แดงจากการทุบกำแพงนั้น
แล้วเขากุมมือของนานะไว้
“พี่นานะ”
เสียงหวานที่เรียกมาทำให้นานะสะดุ้งเฮือก
มามิยืนตกตะลึงที่เห็นพี่ของเธอ “ใช่พี่จริงๆ ด้วย”
“ไซโตะ หนีเร็ว !”
แล้วนานะก็พาไซโตะวิ่งอย่างเร็ว
ทิ้งห่างมามิที่วิ่งตามและร้องเรียกสุดเสียงอยู่ข้างหลัง ในที่สุดพวกเขาก็มาไกลมาก
และมามิไม่มีทางตามมาทันอีกแล้ว
“มามิ” นานะทรุดนั่งและร้องไห้ “ฉันคิดถึงมามิเหลือเกิน”
นานะกลับมาอยู่กับไซโตะแล้ว
“อย่าไปไหนอีกนะ” เขาสั่ง “ฉันเห็นแล้วว่าเธอไม่มีที่ไป ฉันไม่แคร์ว่าเธอจะเป็นคน
แวมไพร์ หรือปีศาจอะไร”
แล้วไซโตะก็ปิดไฟ ทิ้งตัวลงที่โซฟาและหลับตา
“นายใจดีกับฉันเกินไป ไซโตะ” เธอนิ่งมองใบหน้างดงามที่หลับใหลไปแล้วชั่วครู่ก่อนจะพึมพำออกมา
แต่นานะก็ทำแบบนั้นอีก เธอออกไปข้างนอกตอนกลางคืนที่คิดว่าไซโตะหลับแล้ว
และเดินไปตามถนนที่ร้างผู้คน
“ผู้หญิงสวยอย่างคุณไม่ควรออกมาในที่เปลี่ยวแบบนี้คนเดียวนะครับ”
ชายที่เดินผ่านมาบอกกับเธอ
“งั้นช่วยไปส่งฉันหน่อยสิคะ”
“ด้วยความยินดี”
“นี่เหรอครับบ้านของคุณ” ชายแปลกหน้าถามเมื่อเธอนำเขามาถึงซอยแคบเปลี่ยว
“จะบอกยังไงดีล่ะ”
ฟึ่บ
“อะ...อะ...คุณ...!?”
ตุบ
ร่างนั้นร่วงลงกับพื้น นานะเช็ดริมฝีปาก แล้วเธอก็ทำกับคนอื่นแบบนั้นอีกสองสามคน
ร่างแน่นิ่งล้มลงรายทาง
“นานะ”
เธอหันตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย “นายไม่ควรตามฉันมา ไซโตะ”
“พอได้รึยัง”
“ไม่รู้สิ” เธอมองร่างที่ถูกดูดเลือดจนตัวแข็งอยู่บนพื้น “คนพวกนี้ไม่ตายหรอก
แค่หมดสติ ตื่นมาก็จำอะไรไม่ได้แล้ว”
“หยุดซะที”
“ฉันเป็นแวมไพร์นะ และนายบอกแล้วว่านายไม่แคร์ว่าฉันจะเป็นอะไร นายพูดถูกแล้ว
ไม่ต้องมาสนใจปีศาจไร้ค่าอย่างฉันหรอก”
ไซโตะคว้าข้อมือของนานะแรงจนเกือบจะคล้ายกระชาก
“ไซโตะ ?”
“ถ้าเธอขืนออกมาเกเรแบบนี้อีก ฉันจะมัดเธอไว้”
“ว่าไงนะ !?
นี่นายเรียนเก่งจริงๆ หรืออาจารย์ให้คะแนนผิดกันแน่
ประกาศเกียรติคุณพวกนั้นของปลอมรึเปล่า ทำไมเป็นคนเข้าใจอะไรยากล่ะ ?”
แล้วไซโตะก็ลากเธอกลับมากับเขาโดยไม่พูดอะไรอีก เขาไม่หันมามองเธอด้วยซ้ำไป
“ทำไมนายถึงไม่เข้าใจอะไรเลย”
คลิก
ไซโตะลากตัวนานะกลับมาที่ห้องแล้ว เขาล็อคประตูทันที
“ฉันยังออกล่าไม่เสร็จเลยนะ” เธอบอกอย่างเสียอารมณ์ “เปิดให้ฉันออกไป
ฉันไม่ฆ่าใครเหมือนแวมไพร์ใจร้ายตัวอื่นหรอกน่ะ”
แต่ไซโตะคว้ามือของนานะที่กำลูกบิดประตูและกำลังจะแก้ล็อคออก
ก่อนจะดึงมือนั้น ทำให้ทั้งตัวนานะลอยเข้าไปชนกับร่างของเขา
“ไซโตะ ?”
ร่างสูงรั้งมือของนานะแน่น อีกมือรั้งท้ายทอยใต้เส้นผมดำยาวเข้าไปที่ลำคอของเขาเอง
“ดื่มเลือดฉันสิ”
“!!?? นาย...”
“ดื่มเลือดฉัน ทำให้ฉันเจ็บคนเดียว แล้วไม่ต้องไปทำร้ายใครอีก”
“นายเป็นพระเจ้าหรือไงถึงจะต้องมาเจ็บแทนคนอื่น” นานะหัวเราะขมขื่น
กลิ่นกายและไออุ่นของไซโตะลอยเข้ามาสัมผัสประสาทรับรู้ของเธอ เขาไม่แค่หน้าตาหล่อเหลาเกินไป
แต่ยังใจดีเกินไปด้วย
เขากดท้ายทอยเธอเพื่อให้ริมฝีปากเธออยู่ชิดลำคอของเขา
“ไม่” นานะแข็งขืน “นายตัวเหม็น”
“นานะ” เขาปรามเธอเสียงเรียบ
“โอเค ฉันขอโทษ นายเพิ่งอาบน้ำมา ฉันแพ้กลิ่นสบู่นายนะ ฮัดชิ้ว”
“เลิกเฉไฉซะที”
“ดะ...เดี๋ยว เดี๋ยว”
นานะโวยวายเมื่อเขาอุ้มเธอไปที่เตียงและคร่อมร่างเธอไว้ เขาล็อคมือเธอแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้
นานะมองต้นคอของไซโตะด้วยหัวใจเต้นแรงตอนที่เขาพูดออกไป
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอไม่สนใจเลือดของฉัน คืนก่อนเธอตื่นมาและเกือบจะกัดฉันอยู่แล้ว
ทำไมเปลี่ยนใจซะล่ะ”
“นายรู้ !?”
นานะเบิกตากว้างก่อนจะเสมองไปอีกทาง มือยังถูกล็อคไว้ นั่นมันเรื่องตั้งแต่คืนแรกๆ
แล้วแท้ๆ
“ฉันเปลี่ยนใจเพราะฉัน... เอ่อ แพ้กลิ่นสบู่นาย”
“อย่าใช้มุขแป้กอันเดิมกับฉันนะ”
ไซโตะอยู่ใกล้เกินไป ใกล้จนลมหายใจของเขารินรดใบหน้าเธอ
ไหนจะเสียงเต้นของเส้นเลือดในร่างเขาที่เธอได้ยินอีก นานะแอบกลืนน้ำลาย
ฟึ่บ ! นานะพลิกตัวจนหลุดจากการเกาะกุมของเขาได้
“นายทำให้ฉันหายหิวไปเลย นายไม่ใช่เสป็คฉัน ออกไปห่างๆ ได้แล้ว”
แล้วเธอดึงผ้าห่มมาคลุมโปง “ฉันง่วงแล้ว ราตรีสวัสดิ์”
“อย่าออกไปอีกนะ นี่เป็นคำสั่ง” เขาบอกร่างที่แกล้งหลับคุดคู้ใต้ผ้าห่ม
ไซโตะผละไปแล้ว
“ฉันไม่มีวันกินเลือดนาย” เธอบอกตัวเองในใจ
“ฉันไม่มีวันทำร้ายนาย ไซโตะ”
รีดเดอร์ที่สนใจ “Vampire and I : ซากุระในสายฝน”
ฉบับพ็อคเก็ตบุ๊คสามารถโอนเงินค่าหนังสือ 179 บาทพร้อมค่าจัดส่งทั่วประเทศ 30 บาทรวม
209 บาทมาได้ที่บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาบิ๊กซีหางดง 2
เลขที่บัญชี 406-387614-3 เอื้องอลิน จึงสกุลรุจิเรข
แล้วส่งหลักฐานการโอนพร้อมชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่งมาที่อินบ๊อกซ์ www.facebook.com/daydreamfiction
หรือ Line id: Ung-alin ขอบคุณค่ะ ^^