ความมืดห่มผ้าคลุมท้องฟ้าราวกับเตือนให้รู้ว่าได้เวลาหลับใหล ดึกแล้ว
ไซโตะไม่เคยกลับจากเรียนดึกแบบนี้ นานะนั่งเคาะนิ้วอย่างหงุดหงิดอยู่ที่โต๊ะ
เธออยากออกไปข้างนอก แต่เพราะไซโตะสั่งห้ามเอาไว้
เธอก็เลยต้องรอเขากลับมาเหมือนหมาแมวรอเจ้าของ
ทำไมแวมไพร์อย่างเธอต้องเกรงใจมนุษย์ธรรมดาอย่างเขาด้วยนะ
ไซโตะกลับมาแล้ว
“สุขสันต์วันเกิด” เขาบอกสีหน้าเรียบและวางถุงของขวัญลงบนโต๊ะหน้าเธอ
“นี่ไม่ใช่วันเกิดฉัน = _ =”
“ช่างเหอะ”
“ฉันไม่เคยตลกกับมุขของนาย”
“ฉันก็ไม่เคยตลกกับมุขเธอเหมือนกัน ยัยมุขแป้ก”
“นี่อะไร” เธอส่องดูของในถุง
“เทออกมาสิ”
ตุบ
สิ่งที่ไหลออกมาจากถุงกระดาษสีสวยเป็นถุงเลือด จะว่าไปหน้าตาของมันดูเหมือนถุงเลือดของโรงพยาบาล
“อะไร” เธอขมวดคิ้ว
“เลือดฉัน”
“หา !?”
“ฉันไปคลินิกเอาเลือดตัวเองมาให้เธอ”
“บ้า หยะแหยงที่สุด” เธอทำหน้าเหยเก
“นานะ” เขามองเธออย่างจริงจัง “ไม่ต้องออกไปทำร้ายใครแล้วนะ”
“ไซโตะ” เธอเรียกชื่อเขาอย่างซาบซึ้งเหมือนน้ำตาจะไหลพราก
ไซโตะรู้ว่าบางทีเธอจะแกล้งทำแบบนี้บ้างเหมือนเป็นเรื่องสนุก แล้วไม่ทันไรเธอก็เปลี่ยนเป็นทำท่าขนลุก
“ฉันกลัวเลือดนาย มันดูน่ากลัว”
“จะเฉไฉไปถึงเช้าเลยรึไง” เขาไม่อ่อนข้อ เดินไปคว้าหลอดในครัวมายื่นให้
“กินซะ”
นานะถอนใจ เธอบ่ายเบี่ยงต่อไปไม่ได้แล้ว เธอจำใจดูดเลือดจากถุงแล้วนิ่งอึ้งไป
“เป็นไง อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อือ” แล้วน้ำตาแวววาวก็ไหลลงมาจากตากลมโตของนานะ “นายไม่ต้องดีขนาดนี้ก็ได้
ไม่ต้องอ่อนโยนขนาดนี้ก็ได้นะ”
“ฉันทำเพื่อคนอื่นจะได้ไม่เดือดร้อน ไม่ได้ทำเพื่อเธอ”
“ปากแข็ง”
นานะหายใจสะดุดเมื่อฝ่ามือไซโตะรั้งใบหน้าของเธอที่ก้มอยู่ขึ้น
ปลายนิ้วหัวแม่มืออุ่นเช็ดน้ำตาให้เธอ
“อยากให้พูดความจริงไหมล่ะ” เขามองเธอนิ่ง
“ความจริง ?”
“ความจริงที่ว่าฉันอยากเป็นคนเดียวที่เธอกระหายหา และเป็นคนเดียวที่เธอจะเข้าใกล้”
“นาย...”
“ฉันคนเดียวเท่านั้น”
แต่น้ำตาอีกหยดของนานะไหลลงมา ใบหน้าเหมือนตุ๊กตาส่ายไปมาอยู่ในฝ่ามือของเขา
“ฉันไม่มีวันกินเลือดของนาย ไม่มีวัน”
ท้องฟ้าอาบสีกุหลาบงดงาม เย็นอีกวันมาถึงแล้ว
นานะไม่ได้แตะต้องถุงเลือดของไซโตะเลยตั้งแต่จิบไปนิดเดียวเมื่อคืน
แต่เขายังแช่แข็งมันไว้
“หิวรึเปล่า” เขาถาม
“ไม่”
“แต่เธอกำลังมองคอของฉัน” เขาเพยิดหน้าไปที่ตู้เย็น “ไปกินที่ฉันแช่แข็งไว้ในฟรีซเลย
แวมไพร์ดื้อ”
“ฉันไม่ได้มองคอนาย”
“ให้มันจริงก็แล้วกัน”
นานะเม้มปาก มองไซโตะกินอาหารเย็นที่เธอเตรียมให้
ก่อนจะเชิดหน้าแล้วลุกออกไปที่ระเบียงเพื่อเลี้ยงนกพิราบ
เธอกลับมาเอากระดาษแผ่นเล็กและปากการอบหนึ่ง เขียนโน้ตบางอย่าง แล้วผูกกับขานกพิราบเพื่อจะส่งมันบินขึ้นฟ้าไป
“เธอล่าเลือดจากผู้ชายเสเพลเสมอรึเปล่า” ไซโตะถามจากโต๊ะอาหาร
“ก็แล้วแต่ มันเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับผู้หญิงสวยอย่างฉัน”
“โกหกคำโตเลยนะ แวมไพร์ขี้เหร่”
ตุ้บ เธอเหวี่ยงถุงข้าวนกใส่ไซโตะ แต่เขารับไว้ได้
เธอจิ๊ปากอย่างขัดใจก่อนจะหันไปสนใจนกพิราบต่อ
“อย่างที่ฉันบอก พวกนั้นไม่ตาย แค่สลบไป ตื่นขึ้นมาฉันก็ทำให้เขาจำอะไรไม่ได้
บางทีแผลจากคมเขี้ยวแวมไพร์ก็เจ็บปวดน้อยกว่าสิ่งที่มนุษย์ทำต่อกันเองหลายเท่า
ทั้งคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ การแกล้งกัน หรือแม้แต่ทำร้ายกัน เพราะแบบนั้นน่ะเจ็บแล้วก็จำไปจนตาย”
แล้วไซโตะลุกขึ้นไปล้างจาน “คืนนี้เธอจะกินอะไร”
“นายไม่อยากรู้หรอก” เธอบอกอย่างไม่แยแสแล้วเดินไปที่ประตู
“จะไปไหน ฉันสั่งห้ามแล้วนะ”
แต่นานะจ้องเขาตาขวาง “อย่าตามมานะ !”
แต่ก่อนเธอจะบิดประตูได้ ไซโตะก็รั้งต้นแขนของเธอไว้แล้ว
“นายจะทำอะไร ไซโตะ !?” เธอหายใจขาดห้วงเมื่อเขารั้งเธอเข้าไปในอ้อมแขน ก่อนจะฝังใบหน้าลงบนไหล่ของเธอ
“ทำกับฉันเหมือนที่เธอทำกับพวกผู้ชายเสเพลพวกนั้นสิ”
คำพูดที่เหมือนสั่งของไซโตะทำให้ดวงตากลมโตวูบไหว “ไม่”
“เลือดฉันปลอดภัยกว่าเลือดพวกนั้นนะ” เขายังรั้งเธอไว้
กระชับอ้อมแขนจนร่างเธอแนบเข้ากับร่างสูง “ที่สำคัญ ฉันไม่อยากให้แวมไพร์โง่อย่างเธอตายเพราะโรคเอดส์จากผู้ชายท่องราตรี”
“แวมไพร์จะเป็นเอดส์ได้ไง คนที่ห่วงไปเรื่อยนั่นล่ะโง่เป็นบ้า”
“กินซะ ฉันรู้ว่าได้เวลาอาหารของเธอแล้ว” เขาบอกเสียงเรียบ
ริมฝีปากของนานะอยู่ใกล้จนเขาสัมผัสลมหายใจของเธอได้
“กินเลือดนายแล้วฉันต้องโง่แบบนายแน่”
“ฉันได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งนะ”
“อาจารย์คงคิดคะแนนผิด”
“เธอลามปามถึงอาจารย์อีกแล้วนะ” เขารั้งท้ายทอยเธอเข้าหาคอของตัวเอง
“เลิกบ่ายเบี่ยงซะที ดื่มเลือดฉันซะ”
ไซโตะดูเอาจริงซะแล้ว
“อยากเจ็บตัวก็จะสนองให้”
นานะยืดร่างขึ้น โอบรั้งไหล่กว้างลงมาใกล้ แล้วกล้ามเนื้อคอของไซโตะก็กระตุกเมื่อเธอฝังคมเขี้ยวลงไป
เธอลิ้มรสเลือดของเขาอย่างกะประเมิน
“อร่อยกว่าเลือดในถุงหลายเท่าเลย” เธอถอนคมเขี้ยว
ไล้ปลายนิ้วไปบนรอยแผลที่เธอสร้างไว้ “อย่าให้นายเจอแวมไพร์ใจร้ายเข้าล่ะ
นายถูกสูบเลือดหมดตัวแน่”
“รสชาติมันเป็นยังไง บอกฉันสิ”
“อร่อยที่สุดที่เคยกินมาเลยล่ะ” นานะฝังคมเขี้ยวลงบนร่างไซโตะอีกครั้ง
นิ้วเรียวจิกแผ่วลงบนไหล่กว้าง แต่เมื่อกลืนเลือดไปได้ไม่กี่อึกนานะก็สะอื้น
“คนบ้า นายหาเรื่องใส่ตัวแล้ว”
เธอทุบไหล่ของไซโตะ “ฉันอาจจะเสพย์ติดดื่มเลือดนายคนเดียวจนนายเลือดหมดตัวตายก็ได้”
เธอฝังคมเขี้ยวลงไปอีกครั้ง และครั้งนี้เธอดื่มเลือดมากจนเขารู้สึกได้ถึงเลือดและความร้อนที่หลั่งไหลออกไป
“ขอโทษนะ” เธอพูด และเขาได้ยินเสียงเธอเหมือนอยู่ห่างออกไปกว่าที่เป็นจริง
คงเพราะเขาเสียเลือดไป “เจ็บใช่มั้ย”
ไซโตะไม่ตอบ นานะยิ้มปริร้าว
“มันเจ็บนะ นายไม่ชอบมันหรอก”
แล้วนานะก็ผละจากอ้อมแขนของเขา
“ฉันจะไม่ดื่มเลือดนายอีกแล้ว”
ในเวลาที่ความมืดเริงระบำ นานะยังออกล่าหาเลือด แต่ไซโตะหาเธอจนเจอก่อนที่เธอจะทันดื่มเลือดเหยื่อรายต่อไป
“หยุดเดี๋ยวนี้ นานะ”
เขาลากมือเธอกลับไป
“เลิกห้ามฉันซะที ขอร้องล่ะ ฉันเป็นแค่แวมไพร์ เป็นแค่ปีศาจ”
ปัง ! ไซโตะล็อคประตูและยืนขวางไม่ให้นานะออกไปได้อีก
เขาเริ่มโกรธ ดวงตาที่เคยงดงามน่าหลงใหลกลับขุ่นมัว
“ทำไมเธอไม่ยอมเชื่อฟังฉัน
ฉันบอกไม่ให้เธอดื่มเลือดคนอื่น ไม่ให้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ไปเรื่อยๆ”
“ฉันจะไม่กินเลือดคนที่ฉันรู้สึกดีด้วย”
“หมายความว่าไง” ไซโตะถาม
ดวงตาสีเดียวกับความมืดนอกหน้าต่างนิ่งมองเธอ “เธอชอบฉันเหรอ”
นานะเม้มปาก ส่ายหน้า
“ไม่ต้องบอกก็ได้” เขาเดินเข้ามาหาเธอ
และก้าวสุดท้ายก็พาร่างสูงมาหยุดใกล้จนสัมผัสกับร่างของเธอ
“แสดงให้ฉันดูสิว่าเธอรู้สึกยังไง ความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ”
...ตึกตัก...
นานะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นผิดจังหวะออกไปจากเดิม
ไซโตะอยู่ใกล้เกินไป
“ฉันไม่แคร์ว่าเธอรู้สึกยังไงกับฉัน ที่ฉันต้องการก็คือฉันไม่อยากให้เธอดื่มเลือดใครอีก”
นิ้วเรียวยาวของไซโตะรั้งปกเสื้อของตัวเองลง “ดื่มเลือดของฉันคนเดียวเท่านั้น”
ความนิ่งเงียบที่น่าอึดอัดโอบล้อมเขาและเธอเอาไว้ เงียบจนได้ยินเสียงเข็มนาฬิกาที่ฝาผนังเดินบอกผ่านที่เวลาไป
แล้วนานะก็รั้งสาบเสื้อไซโตะเข้ามา
“อย่าท้าทายแวมไพร์นะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงราวกับภูติที่เร่ร่อนอยู่ในความมืด
ดวงตาสีดำวาบสีแดงลุกวาว “เพราะหลังจากนี้ถ้านายเสพย์ติดคมเขี้ยวของฉัน ก็จะไม่มีใครดึงนายขึ้นจากหุบเหวแห่งความมืดได้อีกแล้ว”
ไซโตะหลับตา สัมผัสลมหายใจแรงของนานะที่รินรดต้นคอ แล้วคมเขี้ยวก็ฝังลงมา
ฝังลงบนรอยเดิมที่เขาได้รับเมื่อคืนก่อนหน้า นานะดื่มเลือดราวกับจงใจให้เขาเจ็บ เธอหวังให้เขาเกลียดกลัวเธอและเข็ดจากคมเขี้ยว
แต่เขากลับรั้งท้ายทอยของเธอและขยุ้มเส้นผมของเธออย่างอ่อนโยน
“เลือดนายหวานเหลือเกินไซโตะ” เธอกระซิบ ”นายรู้สึกยังไงบ้าง”
“ไม่รู้สิ”
“ฉันไม่เกรงใจละนะ”
...ฉึก...
เธอฝังคมเขี้ยวลงอีกครั้ง รุนแรงจนดันให้หลังไซโตะชิดแนบไปกับผนัง
เธอกดร่างสูงเขาลงกับพื้นและยังคงดื่มเลือดจากเขา คร่อมอยู่เหนือร่างของเขาราวกับสัตว์ร้าย
“ฉันทำอะไรลงไป” นานะถอนคมเขี้ยว ริมฝีปากยังฉาบเลือดของไซโตะ
“เป็นความผิดนายคนเดียว เลือดนายหวานเกินไป”
แล้วนานะทาบทับริมฝีปากของเธอลงบนริมฝีปากของไซโตะ
ทำให้คราบเลือดติดอยู่กับริมฝีปากของเขา “นายทำให้ฉันหิวกระหายในตัวนาย
และบางทีมันอาจจะสายเกินไปแล้วที่จะถอนตัว”
หลังจากคืนนั้นนานะก็หายตัวไป
ไซโตะรอเธอ แต่เธอไม่กลับมา เขาตามหาเธอและได้ผ่านวิหารที่น่าเกรงขามนั้นอีกครั้งในแสงสีเทาของวันที่กำลังจะจบลง
แล้วฝีเท้าของเขาต้องหยุดกึก ที่พื้นหน้าวิหารมีซากนกพิราบเปรอะเลือดอยู่ตัวหนึ่ง
คงเป็นแมวที่ฆ่ามัน
แล้วไซโตะมองผ่านประตูเข้าไปที่วิหาร
เงื้อมเงาทำให้รูปสลักเทวทูตและทุกอย่างดูเทาทึม
เขาไม่เคยรู้สึกห่างไกลจากพระเจ้าและแสงสว่างมากเท่านี้เลย
“เธอมาสาย” ชายร่างสูงสง่าราวกับเทวรูปในเงามืดทักนานะ มิคามินั่นเองที่ยิ้มหม่นลี้ลับราวกับพระจันทร์เสี้ยว
ดวงตาเรื่อสีแดงเมื่อนานะเดินเข้ามา “ดูสวยขึ้นนะ ทั้งที่ปกติก็สวยมากอยู่แล้ว”
มืองดงามของมิคามิแทรกเข้าไปในเส้นผมดำยาวแล้วทาบลงบนแผ่นหลังนานะ
ก่อนที่มือนั้นจะรั้งเข้า ทำให้ร่างของนานะแนบเข้ากับร่างของเขา แล้วคมเขี้ยวของมิคามิก็ฝังลงบนคอของนานะ
ทำให้เธอกระตุกวูบ
“มีความรักงั้นเหรอ”
เขาถอนคมเขี้ยวแล้วถามหลังจากดื่มเลือดเธอได้แค่ครู่เดียว
คำถามของเขาทำให้เธอหายใจเฮือก เกร็งไปทั้งร่าง
แต่มิคามิยิ้ม “ไม่ต้องกลัวไปหรอก ฉันรู้ว่าเธอไม่กล้ารักใคร กฎแวมไพร์สำหรับพวกฝ่าฝืนร้ายแรงแค่ไหนเธอก็รู้
ตราบใดที่เธอไม่ได้รักใคร และทั้งเลือดและหัวใจของเธอยังเป็นของฉันก็ไม่เป็นไร
ฉันแค่พูดเผื่อไว้”
แล้วมืองดงามของมิคามิก็รั้งใบหน้าของนานะให้เงยขึ้น ก่อนที่เขาจะมองเธอนิ่งราวกับรูปสลักเทวทูตปีกดำที่ไม่มีชีวิตจิตใจ
“เพราะวันไหนเธอมีวันนั้น วันที่เธอมอบหัวใจของเธอให้ใคร ฉันจะฆ่ามันคนนั้น”
เขาบีบคางเธอ “และนั่นจะเป็นเรื่องฉันที่เสียดายที่สุด”
นานะเกร็งไปทั้งร่างเมื่ออยู่ต่อหน้าชายที่ฉุดเธอลงมาในหุบเหวแห่งความมืดนี้
มันเกิดขึ้นนานมาแล้ว และในวันที่มันเกิดขึ้น
มันก็ประดับประดาตัวเองด้วยสีแดงฉานของเลือด แน่นอน เธออยากจะแค่ลืมเทพนิยายหม่นเศร้านี้ไป
“ฉันเปลี่ยนเธอเป็นแวมไพร์ เพราะงั้นเธอเป็นของฉัน
และต้องเป็นแบบนั้นตลอดไป อย่าลืมกฎสำหรับแวมไพร์ที่ฝ่าฝืนซะล่ะ”
แล้วมิคามิก็ฝังคมเขี้ยวลงบนร่างนานะอีกครั้งบนแผลเดิมเหนือลำคอเล็กบางของเธอ
คมเขี้ยวของมิคามิสร้างความเจ็บปวดรุนแรงเสมอ
“ฉันรักเธอ นานะ
รักมากอย่างที่เธอไม่มีวันเข้าใจ”
เวลาแห่งความความมืดเดินทางมาถึงอีกแล้ว
มาพร้อมปริศนาและความเงียบงันที่แสนแปลกหน้า นานะยังไม่กลับมา ไซโตะมองนาฬิกาบนผนังที่บอกเวลาเลยเที่ยงคืนไปแล้ว
คืนนี้เป็นคืนที่เจ็ดที่นานะหายไป
...นานะ...
...เธออยู่ไหน... ?
รีดเดอร์ที่สนใจ “Vampire and I : ซากุระในสายฝน”
ฉบับพ็อคเก็ตบุ๊คสามารถโอนเงินค่าหนังสือ 179 บาทพร้อมค่าจัดส่งทั่วประเทศ 30 บาทรวม
209 บาทมาได้ที่บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาบิ๊กซีหางดง 2
เลขที่บัญชี 406-387614-3 เอื้องอลิน จึงสกุลรุจิเรข
แล้วส่งหลักฐานการโอนพร้อมชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่งมาที่อินบ๊อกซ์ www.facebook.com/daydreamfiction หรือ Line id: Ung-alin ขอบคุณค่ะ ^^